ลิ้งค์เชื่อมต่อ

บทบาทของแม่ที่ต้องเลื่อนออกไป – ค่ากลางของชาวอเมริกันที่จะมีบุตรเพิ่มขึ้นเป็น 30 ปี


mother's day
mother's day

เนื่องในวันแม่แห่งชาติของสหรัฐฯ รายงานจากสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ล่าสุด ระบุว่า ค่ามัธยฐานอายุของผู้หญิงอเมริกันที่จะมีลูก เพิ่มจาก 27 ปี เป็น 30 ปี ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเท่าที่มีการบันทึกข้อมูลมา ตามรายงานของเอพี

สำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่า ค่ากลางของอายุสตรีที่มีบุตรปรับเพิ่มขึ้นทั้งในกลุ่มผู้ที่เกิดในต่างประเทศ ที่ปรับเพิ่มขึ้นจาก 27 ปีเป็น 32 ปี และผู้หญิงผิวสีในอเมริกาก็มีมุมมองในเรื่องการมีบุตรไปในทิศทางเดียวกัน โดยค่ามัธยฐานของอายุที่ผู้หญิงผิวสีจะมีบุตรปรับเพิ่มขึ้นจาก 24 ปี เป็น 28 ปี

มุมมองของ ฟิลิป โคเฮน อาจารย์ด้านสังคมวิทยาจาก University of Maryland มองว่า การตัดสินใจโดยผู้หญิงที่มีระดับการศึกษาปริญญาตรีหรือสูงกว่านั้น ในการลงทุนเพื่อการศึกษาและอาชีพของตัวเอง เพื่อให้มีรายได้ที่ดีเมื่อพวกเธอมีลูก เช่นเดียวกับความต้องการของผู้หญิงในวัยทำงานที่อยากจะรอจนกว่าจะมีความมั่นคงทางการเงิน ได้นำไปสู่การเพิ่มขึ้นของค่ากลางของอายุที่หญิงชาวอเมริกันจะเป็นแม่คนมากขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นกับทั้งสตรีผิวขาวและผิวสี ส่วนกรณีของผู้หญิงเชื้อชาติอื่น หรือผู้ที่เกิดในต่างประเทศและอพยพมายังสหรัฐฯ นั้น อาจารย์ด้านสังคมวิทยาจาก University of Maryland มองว่า อาจมาจากปัจจัยที่ซับซ้อนของเงื่อนไขชีวิตในสหรัฐฯ

ในอดีต พ่อแม่จะพึ่งพาบุตรหลานในเรื่องรายได้เมื่อยามแก่ชรา ด้วยการให้ลูกหลานทำงานในไร่ในสวนเพื่อสร้างรายได้ ในยุคที่เศรษฐกิจพึ่งพาภาคการเกษตรเป็นสำคัญ แต่ในปัจจุบัน พ่อแม่อเมริกันต่างลงทุนกับอนาคตของบุตรหลานมากขึ้น และให้การสนับสนุนพวกเขาในการเข้าโรงเรียนไปจนถึงช่วงวัยผู้ใหญ่ตอนต้นด้วย ซึ่งการมีบุตรเมื่ออายุมากขึ้น จะช่วยให้ผู้หญิงอยู่ในสถานะที่ดีกว่า ในมุมมองของโคเฮน เพราะมีทรัพยากรและการศึกษาที่ดีกว่า และคุณสมบัติที่ดีสำหรับการเป็นพ่อแม่นั้นทำได้ง่ายกว่าเมื่ออายุมากขึ้น

สำหรับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ได้ทำให้บทบาทการเป็นแม่ของผู้หญิงถูกผลักออกไปอีกสำหรับหลายคน โดยอัตราการเกิดในสหรัฐฯ ช่วงปี 2020 ลดลง 4% ซึ่งถือว่าเป็นการลดลงอย่างมากที่สุดในรอบ 50 ปี โดยปัจจัยหลักคือเรื่องปัญหาความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและความเสี่ยงในการมีบุตรช่วงโควิดระบาด แต่อัตราการเกิดเริ่มปรับเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อยในครึ่งหลังของปี 2021 แต่ยังไม่ถึงระดับปกตินัก

ไม่เพียงแต่ในสหรัฐฯ เพราะปรากฏการณ์มีลูกเมื่ออายุมากขึ้น เกิดกับประเทศพัฒนาอื่นๆ ทั้งในยุโรปและเอเชียเช่นกัน ซึ่งเคท ชเว นักประชากรศาสตร์ครอบครัวจาก Western University ในออนแทรีโอ ให้ทัศนะว่า การมีบุตรที่ลดลงจากสร้างผลกระทบตามมาอีกมากสำหรับสหรัฐฯ ทั้งการขาดแคลนแรงงาน ประชากรที่ลดลง ต้นทุนค่าจ้างที่สูง และภาระภาษีของคนทำงานในอเมริกาที่สูงขึ้นเพื่อนำมาช่วยเหลือคนเกษียณที่จะเพิ่มขึ้นมากในอนาคต

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG