สหรัฐยังกดดันจีนไม่สำเร็จทั้งในข้อพิพาททางดินแดนในทะเลจีนใต้และปัญหาการเมืองในฮ่องกง

  • Scott Stearns
นักวิเคราะห์ชี้ว่านโยบายต่างประเทศสหรัฐต่อจีนยังไม่เสมอต้นเสมอปลายขณะที่สหรัฐพยายามปรับปรุงสัมพันธ์ทางการค้ากับชาติยักษ์ใหญ่ในเอเชียนี้

Your browser doesn’t support HTML5

Yearender US China

การประท้วงในฮ่องกงดำเนินมานานกว่าสองเดือนแล้ว แต่รัฐบาลสหรัฐยังเดินหน้าเรียกร้องให้มีการเจรจากันระหว่างกรุงปักกิ่งกับผู้ประท้วงที่ขัดแย้งกันเพราะทางการจีนคัดกรองผู้ลงสมัครรับการเลือกตั้งในฮ่องกง

คุณ Sophie Richardson ผู้อำนวยการ Human Rights Watch China กล่าวว่าจีนยังไม่ยอมรับการแทรกแซงการเลือกตั้งในฮ่องกงจากภายนอก ทำให้สหรัฐแทบไม่มีบทบาทอะไรเลยในการกดดันจีน

คุณ Richardspon ชี้ว่าตนเห็นว่าสหรัฐยังไม่เสมอต้นเสมอปลายในจุดยืนต่อปัญหาสิทธิ์การเลือกตั้งและประชาธิปไตยในฮ่องกงและจีน เมื่อเทียบกับบทบาทของสหรัฐต่อปัญหาเดียวกันนี้ในส่วนอื่นๆ ของโลก เธอคิดว่าความเสมอต้นเสมอปลายของนโยบายสหรัฐต่อจีนเป็นหัวใจสำคัญในการกดดันจีน

เมื่อมาถึงปัญหาข้อพิพาททางดินแดนในทะเลจีนใต้ จีนได้คัดค้านความพยายามของสหรัฐในการจัดตั้งแนวทางปฏิบัติหรือ code of conduct ขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาข้อพิพาทนี้ คุณ Michael Auslin นักวิเคราะห์แห่งสถาบัน American Enterprise Institute กล่าวว่าทางจีนต่อต้านท่าทีของสหรัฐเพราะต้องการจัดการปัญหากันเอง

นักวิเคราะห์อเมริกันผู้นี้กล่าวว่านี่เป็นแผนที่ชาญฉลาดของจีนที่มุ่งยื้อให้การเจรจาดำเนินต่อไปอย่างไร้จุดหมาย จีนทำตัวเช่นเดียวกับเกาหลีเหนือหรืออิหร่านและอีกหลายประเทศที่ไม่ยอมปฏิบัติตามกฏเกณฑ์ ทำให้การเจรจาไร้จุดหมาย ไม่จบสิ้นและไร้ความคืบหน้า เขาชี้ว่าหากจีนต้องการร่วมมือ คงทำไปนานแล้ว

ด้านวุฒิสมาชิกอเมริกัน Sherrod Brown กล่าวว่าหากสหรัฐต้องการกดดันจีนอย่างได้ผล สหรัฐควรใช้ประโยชน์จากการเป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ที่สุดในโลกเพื่อให้จีนหันมาร่วมมือด้วย

วุฒิสมาชิกอเมริกันคนนี้กล่าวว่าจีนต้องการเข้าถึงตลาดผู้บริโภคในสหรัฐ เทคโนโลยีและมหาวิทยาลัยอเมริกัน ตนเชื่อว่าหากต้องการให้จีนร่วมมือด้วย สหรัฐต้องผสมผสานทั้งไม้แข็งและไม้อ่อน อย่างไรก็ตามวุฒิสมาชิก Brown ชี้ว่ากรุงวอชิงตันเริ่มลดความสนใจที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกับจีนลงในขณะนี้

ด้านคุณ Justin Loganนักวิเคราะห์แห่งสถาบัน Cato Institute กล่าวว่านั่นเป็นเพราะว่าปัญหาที่เกี่ยวกับเอเชียถูกปัญหาจากตะวันออกกลางกลบความสำคัญในเชิงนโยบายจากสหรัฐ

เขากล่าวว่าพันธมิตรเอเชียตะวันออกควรผลักดันให้สหรัฐมุ่งความสำคัญเชิงนโยบายแก่ภูมิภาคมากกว่านี้เพราะเป็นสิ่งสหรัฐควรทำ แต่พันธมิตรในเอเชียตะวันออกกลับไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องนี้เท่ากับชาติในตะวันออกกลางและอิสราเอล

ในปีนี้ ประธานาธิบดี Barack Obama แห่งสหรัฐกับประธานาธิบดี Xi Jinping ของจีนได้เห็นพ้องกันในแผนที่ทะเยอทะยานในการลดแก๊สเรือนกระจก

ในข้อตกลงเรื่องนี้กับจีน ประธานาธิบดีสหรัฐชี้ว่าตนได้เร่งเร้าให้จีนปฏิบัติตามกฏเดียวกันกับประเทศอื่น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าหรือเขตน่านน้ำทางทะเล ผู้นำสหรัฐย้ำว่าความมั่นคงในเอเชียจะต้องไม่ขึ้นอยู่กับอิทธิพลและแรงกดดัน แต่ขึ้นอยู่กับการสร้างพันธมิตรเพื่อความมั่นคงร่วมกัน