ต้อนรับวาระที่หนังสือเดินทางของไทยทรงอิทธิพลขึ้น วีโอเอไทยรวบรวมอัตราแลกเปลี่ยนในประเทศที่คนไทยนิยมไปเที่ยวในปี 2023 เพื่อหาว่าประเทศไหนที่คนไทยใช้เงินบาทแลกเป็นสกุลท้องถิ่นได้เยอะกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
ข่าวดีสำหรับขาเที่ยวในต้นปีนี้ คือระดับหนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ของไทยในดัชนีพาสปอร์ตเฮนลีย์ (Henley Passport Index) ขยับขึ้นมาอยู่ในลำดับที่ 63 จากลำดับ 68 ในปี 2023 ด้วยการมีจุดหมายปลายทางที่เดินทางแบบไม่ขอวีซ่าได้ 82 แห่ง
ในจำนวน 10 ประเทศที่คนไทยนิยมไปท่องเที่ยว ตามการจัดอันดับเมื่อปี 2023 ของ Visa บริษัทบัตรเครดิตชื่อดัง พบว่า มีประเทศญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ที่เงินบาทไทยสามารถแลกเป็นสกุลเงินท้องถิ่นได้มากกว่าช่วงเดือนมกราคมของปีที่แล้ว อ้างอิงตามอัตรากลาง ของอัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยของธนาคารพาณิชย์ในกรุงเทพมหานคร จัดทำโดยธนาคารแห่งประเทศไทย
ในกรณีของญี่ปุ่น อัตราแลกเปลี่ยนในวันที่ 11 มกราคมปีนี้ อยู่ที่ 24.0961 บาทต่อ 100 เยน เทียบกับ 12 มกราคม 2023 ที่ 25.3416 บาทต่อ 100 เยน เท่ากับแลกได้เงินเยนมากกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่ 4.9%
หมายความว่า ตั๋วเที่ยวแบบ 1 วันที่โตเกียวดิสนีย์แลนด์สำหรับผู้ใหญ่ที่ปัจจุบันราคาสูงสุดอยู่ที่ 10,900 เยน จะใช้เงินไทยอยู่ที่ราว 2,629 บาท เทียบกับ 2,762 บาทในปีที่ 2023
หรือถ้าหากจะเข้าพักในโรงแรมหรูที่สุดในกรุงโตเกียว อย่าง Aman Tokyo ที่ราคาอยู่ที่คืนละราว 400,000 เยน เมื่อเทียบเป็นเงินบาท ก็จะอยู่ที่ราว 96,384 บาท ถูกกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่จะต้องใช้เงินไทย 101,366 บาท
ส่วนค่าเงินวอนของเกาหลีใต้นั้น ใช้เงินไทยแลกได้สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วราว 1.1% แม้ไม่มาก แต่ก็ทำให้การเข้าใส่ชุดฮันบกแบบอลังการ เดินเที่ยวพระราชวังเคียงบกกุง ที่มีราคาเช่าชุดที่ 25,000 วอน ถูกลงราว 7 บาท และการเข้าพักในโรงแรมหรูอย่างโจซัน พาเลซ ที่ราคาคืนละ 700,000 วอน ถูกลง 210 บาท
ส่วนประเทศยอดนิยมของนักท่องเที่ยวไทย Top 10 อื่น ๆ อย่างนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ สหราชอาณาจักร สหรัฐฯ ออสเตรเลีย ฝรั่งเศส ฮ่องกง และอิตาลี ค่าเงินไทยกลับอ่อนค่าลงเทียบกับปีที่แล้วที่ราว ๆ 2-10%จุดหมายปลายทางในภูมิภาคอย่างอินโดนีเซีย เวียดนาม และฟิลิปปินส์ ก็มีแนวโน้มไปในทิศทางเดียวกัน
สำหรับตัวอย่างประเทศที่ค่าเงินท้องถิ่นอ่อนค่าเมื่อเทียบกับค่าเงินบาท และผู้ถือหนังสือเดินทางไทยสามารถเดินทางไปได้แบบไม่ต้องขอวีซ่า ได้แก่ มาเลเซีย (1.1%) แอฟริกาใต้ (4.9%) เคนยา (17.7%) ลาว (12.5%) และอาร์เจนตินา (76.4%) ซึ่งรายหลังนั้น มีรายงานข่าวเรื่องปัญหาเงินเฟ้อที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ที่ 211.4% ตามการรายงานของรอยเตอร์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เงื่อนไขทางเศรษฐกิจและการเงิน อาจเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าครองชีพในแต่ละประเทศ และอาจส่งผลกระทบต่อค่าใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวผู้ไปเยือนเช่นกัน