เวียดนามจับกุมผู้ลักลอบค้าสัตว์ป่าเพิ่มขึ้นในช่วงโควิด-19

Your browser doesn’t support HTML5

Vietnam Bans Wildlife Trade Over Pandemic Risk


หลังจากที่นักวิทยาศาสตร์ลงความเห็นว่าโคโรนาไวรัสอาจแพร่จากสัตว์ไปสู่มนุษย์ มีแถลงการณ์จากชาติต่าง ๆ ทั่วเอเชียที่ประกาศว่าจะห้ามการลักลอบค้าสัตว์ป่า ซึ่งขณะนี้มีข้อมูลที่แสดงให้เห็นว่า หลายประเทศ รวมทั้งเวียดนาม มีการบังคับใช้มาตรการห้ามค้าสัตว์ป่านี้

ข้อมูลจาก Education for Nature Vietnam (ENV) ซึ่งเป็นองค์กรด้านสิ่งแวดล้อม ระบุว่ามีการจับกุมการค้าสัตว์ป่าในเวียดนามถึง 97% ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ โดยเปรียบเทียบกับช่วงระหว่างปีพ.ศ. 2558 ถึงปี พ.ศ. 2562 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ที่ประมาณ 87%

นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า การเกิดโรคระบาดใหญ่ครั้งล่าสุดนี้อาจเริ่มขึ้นหลังจากที่มนุษย์สัมผัสกับค้างคาวหรือตัวนิ่มที่ติดเชื้อในประเทศจีน

ที่ผ่านมา เวียดนาม และชาติอื่นๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มักทำหน้าที่เป็นแหล่งลำเลียงผลิตภัณฑ์จากสัตว์ที่ผิดกฎหมายซึ่งไปสิ้นสุดลงที่ประเทศจีน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ยึดของกลางเป็นสัตว์ป่าหายากจำนวนมาก รวมทั้งตัวนิ่ม ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีตัวเป็นเกล็ด เช่นเดียวกับเต่า ชะนี และค่างในเวียดนามที่ใกล้จะสูญพันธุ์

Bui Thi Ha รองผู้อำนวยการฝ่ายการศึกษาเพื่อธรรมชาติเวียดนาม กล่าวโดยอ้างถึงประมวลกฎหมายอาญาที่แก้ไขในปีพ.ศ 2561 ว่า การวิเคราะห์เรื่องการดำเนินคดีขององค์กร ENV นั้นเป็นการพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของประมวลกฎหมายอาญาในปัจจุบัน และการเพิ่มความพยายามในการบังคับใช้กฎหมายและกระบวนการยุติธรรมทางอาญาของเวียดนามในการกำจัดอาชญากรสัตว์ป่า

และตั้งแต่กฎหมายใหม่มีผลบังคับใช้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในปีในปีพ.ศ. 2563 นี้ มีหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าอาชญากรลักลอบค้าสัตว์ป่าถูกปราบปรามอย่างจริงจังมากขึ้นในเวียดนาม

กลุ่มนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมกล่าวว่า นับตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโคโรนาไวรัส การยุติการลักลอบค้าสัตว์ป่ากลายเป็นเรื่องที่เร่งด่วนมากขึ้นในการหยุดยั้งสิ่งที่อาจเป็นแหล่งที่มาของโรค รวมถึงอันตรายที่จะเกิดแก่สัตว์ป่าด้วย

Facebook ได้แสดงการสนับสนุนเรื่องนี้โดยลบโพสต์หลายร้อยโพสต์ที่นำเสนอเรื่องราวของสัตว์และชิ้นส่วนของสัตว์ที่ผิดกฎหมายในแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ข้อมูลที่รวบรวมโดยองค์กร ENV ระบุว่า นอกเหนือจากอัตราการจับกุมที่เพิ่มขึ้นในเวียดนามแล้ว อาชญากรจำนวนมากก็ถูกตัดสินจำคุกด้วย กล่าวคือ ในบรรดาคดีค้าสัตว์ป่าที่ไปถึงชั้นศาล ถูกตัดสินให้จำคุกถึง 68% ในปีนี้ ซึ่งตรงกันข้ามกับตั้งแต่ปีพ.ศ. 2558 ถึงปี พ.ศ 2562 ซึ่งมีอัตรานี้ไม่เกิน 49%

ENV กล่าวว่า จากการวิเคราะห์คดีลักลอบค้าสัตว์ป่า 552 คดี ตลอดระยะเวลา 5 ปี แสดงให้เห็นว่าความมุ่งมั่นในการกวาดล้างอาชญากรรมสัตว์ป่าในปีพ.ศ. 2563 นี้มีมากกว่าปีก่อน ๆ นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญกับการจับกุมผู้นำของขบวนการเหล่านี้ ตลอดจนเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ให้ความสนับสนุนขบวนการเหล่านี้ด้วย

เวียดนามกล่าวว่า ได้ใช้ทุกหน่วยงานของรัฐบาลในการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว นายกรัฐมนตรี Nguyen Xuan Phuc เผยแพร่คำสั่งเมื่อเดือนกรกฎาคม เรื่องการห้ามนำเข้าและขายผลิตภัณฑ์จากสัตว์ป่า

นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้มอบหมายงานให้แต่ละสำนักงาน ตั้งแต่กระทรวงกลาโหมที่ต้องเพิ่มหน่วยลาดตระเวนชายแดน ไปจนถึงกระทรวงสาธารณสุขที่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าร้านขายยาต่าง ๆ ไม่ขายยาที่มีชิ้นส่วนของสัตว์ผิดกฎหมาย

อัยการของรัฐกล่าวในแถลงการณ์ว่า จะบังคับใช้คำสั่งดังกล่าวโดยเพิ่มการสอบสวนอาชญากรข้ามชาติ รวมทั้งกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงต่อผู้บงการและผู้นำที่ใช้ตำแหน่งและอำนาจในทางมิชอบในการก่ออาชญากรรมด้วย