ญี่ปุ่นกับเยอรมนีนำเข้าพยาบาลฝึกอบรมชาวเวียดนามเพื่อแก้ปัญหาขาดแคลนแรงงานด้านนี้

  • Marianne Brown
ญี่ปุ่นและเยอรมนีฝึกอบรมวิชาการพยาบาลด้านการดูแลผู้สูงอายุแก่ชาวเวียดนามเพื่อสร้างฐานแรงงานแก้ปัญหาการขาดแคลนพยาบาลผู้ดูแลคนสูงอายุในประเทศตน

ในเดือนกันยายน มีหนุ่มสาวชาวเวียดนามจำนวน 100 คนเดินทางไปยังเยอรมนี ตามโครงการฝึกอบรมพยาบาลด้านการดูแลผู้สูงวัย เพื่อไปทำงานในเยอรมนี ผู้เข้าร่วมการอบรมเหล่านี้เพิ่มเสร็จสิ้นการอบรมด้านภาษาและวัฒนธรรมที่ยาวนานหกเดือนโดยจัดขึ้นในเวียดนามและจะใช้เวลาอีกสองปีต่อจากนี้ในการฝึกอบรมด้านวิชาชีพในเยอรมนี และหากสอบผ่านเมื่อตอนเรียนจบ พวกเขาจะสามารถทำงานในเยอรมนีได้ในตำแหน่งผู้ดูแลผู้สูงอายุที่ได้รับใบรับรอง

เยอรมนี้เป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของยุโรป แต่กำลังประสบกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงด้านประชากร ซึ่งเกิดจากสองปัจจัยรวมกันนั่นก็คืออัตราการเกิดต่ำและประชาชนมีอายุขัยที่ยาวนานกว่าเดิม มากกว่าหนึ่งในห้าของประชากรในเยอรมนีอายุมากกว่า 65 ปีและจำนวนผู้สูงวัยนี้มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆในอนาคต

ผลที่เกิดขึ้นตามมาก็คือจำนวนผู้สูงวัยที่ต้องการคนดูแลพยาบาลจะเพิ่มจำนวนมากขึ้น เกินหนึ่งล้านคนในอีกสิบเจ็ดปีข้างหน้า ตัวเลขนี้ได้จากหน่วยงานพัฒนานานาชาติแห่งเยอรมันนีหรือ GIZ (Germany international development agency)

โดมินิค ซิลเล่อร์ ผู้อำนวยการแห่ง GIZ กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอที่ฮานอยว่าเยอรมนีรู้ดีว่าตนมีปัญหาขาดแคลนเเรงงานที่ได้รับการอบรมในภาคการสาธารณสุขและรู้ดีว่าชาวเยอรมันสูงวัยจะเพิ่มมากขึ้นและจะต้องการคนดูแลพยาบาลมากขึ้นตามไปด้วย

ในทางตรงกันข้าม 60 เปอร์เซ็นต์ของประชากรเวียดนามเกิดในช่วงหลังสงครามปีพุทธศักราช 2518 และเวียดนามไม่มีงานเพียงพอในการรองรับแรงงานทั้งหมดของประเทศ ชาวเวียดนามต้องดูแลพ่อแม่และพ่อตาแม่ยายเมื่อยามเเก่เฒ่า

ด็อกเตอร์ซิลเล่อร์ กล่าวว่า โครงการนำร่องดังกล่าวไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่จะเห็นทันตาเพราะยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและยากที่จำคาดเดาว่าจะประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน อย่างไรก็ตาม เขากล่าวว่าปัญหาที่สำคัญน่าจะเป็นอุปสรรคด้านภาษา

ปัญหาด้านการฝึกอบรมภาษาแก่พยาบาลต่างชาติ ก็เป็นปัญหาที่ญี่ปุ่นกำลังประสบเช่นกัน ญี่ปุ่นมีประชากรสูงวัยเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายในปลายปีนี้ เป็นครั้งแรกที่ชาวเวียดนาม 150 คนจะเดินทางไปญี่ปุ่นเพื่อเข้าอบรมวิชาการพยาบาลผู้สูงอายุเป็นเวลาสองปี ก่อนเข้าสอบในระดับชาติ

ญี่ปุ่นทำการฝึกอบรมพยาบาลจากทั้งอินโดนีเซียและฟิลิปปินส์ แต่ระบบการอบรมของญี่ปุ่นถูกวิจารณ์ว่าเคร่งเกินไป

คุณโยโกะ ทสึรึยะ เลขาเอกประจำสถานทูตญี่ปุ่นในฮานอยกล่าวว่าผู้สมัครเข้ารับการอบรมทุกคนต้องทำข้อสอบเดียวกันเป็นภาษาญี่ปุ่น ซึ่งถือว่ายากมากสำหรับผู้สมัครชาวต่างชาติเนื่องจากปัญหาด้านภาษาญี่ปุ่น

เธอกล่าวว่าผู้สมัครชาวต่างชาติได้รับความช่วยเหลือบางส่วนเพื่อให้ทำข้อสอบให้เสร็จ อาทิ มีเวลาทำข้อสอบนานกว่าชาวญี่ปุ่น และมีการกำกับการออกเสียงแบบนานาชาติแก่คำในภาษาญี่ปุ่น

แม้ว่าญี่ปุ่นจะมีประชากรสูงวัยเพิ่มจำนวนขึ้น การรับแรงงานต่างชาติไปทำงานในญี่ปุ่นในหลายๆด้านยังเป็นเรื่องที่คนญี่ปุ่นส่วนหนึ่งวิพากวิจารณ์ ผู้ไม่เห็นด้วยแย้งว่าแรงงานต่างชาติทำให้มาตราฐานของงานด้อยลงและเพิ่มปัญหาคนตกงาน

อย่างไรก็ตาม มีเเรงต่อต้านไม่รุนแรงนักในญี่ปุ่นต่อการนำเข้าพยาบาลต่างชาติ คุณทสึรึยะ กล่าวว่า มีคนสอบผ่านข้อสอบวิชาพยาบาลไม่มากนัก ทำให้แรงต่อต้านแรงงานด้านการสาธารณสุขจึงน้อยกว่าเเรงต่อต้านการนำเข้าเเรงงานประเภทอื่น