สหรัฐฯ และเกาหลีใต้ประกาศย้ำความร่วมมือในการยกระดับการป้องปรามภัยคุกคามที่เพิ่มขึ้นจากเกาหลีเหนือ ขณะที่ กรุงวอชิงตันและกรุงโซลกำลังฉลองความเป็นพันธมิตรที่ยืนยาวมากว่า 7 ทศวรรษ
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุในระหว่างการแถลงข่าวในกรุงวอชิงตันในวันจันทร์ว่า ความร่วมมือระหว่างสองประเทศพันธมิตรนั้นจะเป็นไปในแบบที่มีการแบ่งปันแบบทันที (real-time sharing) สำหรับข้อมูลการเตือนภัยขีปนาวุธจากเกาหลีเหนือ รวมทั้งการต่อต้านกิจกรรมทางไซเบอร์ที่มีความมุ่งร้ายของกรุงเปียงยางซึ่งเป็นส่วนที่ให้การสนับสนุนทางการเงินต่อโครงการพัฒนาอาวุธทั้งหลาย
การประกาศแผนงานดังกล่าวของรมต.บลิงเคนมีออกมา ขณะที่ สหรัฐฯ และเกาหลีใต้กำลังเตรียมการเยือนกรุงโซลของรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ ที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้าอยู่
Your browser doesn’t support HTML5
ในเดือนพฤศจิกายนนี้ บลิงเคนมีแผนจะร่วมหารือกับ ปาร์ค จิน รัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีใต้ ในการประชุมตัวต่อตัวครั้งแรกในกรุงโซล เพื่อพูดคุยประเด็นต่าง ๆ เช่น การเสริมสร้างความเข้มแข็งความเป็นพันธมิตรในภูมิภาคเพื่อป้องกันภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ ตามข้อมูลจากแหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับประเด็นนี้
อย่างไรก็ดี รมว.ต่างประเทศของสองประเทศนี้เคยพบกันหลายครั้งแล้วในสหรัฐฯ
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว รมต.บลิงเคน รมต.ปาร์คและรัฐมนตรีต่างประเทศ คามิคาวะ โยโกะ ของญี่ปุ่นที่เพิ่งได้รับการแต่งตั้งมาหมาด ๆ ร่วมประชุมกันในนครนิวยอร์ก ขณะที่ มีการประชุมใหญ่สมัชชาสหประชาชาติอยู่ โดยทั้งสามฝ่ายให้คำมั่นว่า “จะตอบโต้อย่างเข้มงวด” ต่อการกระทำใด ๆ ก็ตามที่เป็นภัยต่อความมั่นคงในภูมิภาค
และในระหว่างการประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ที่จัดขึ้นโดย Korea Foundation และ Center for Strategic and International Studies ในวันจันทร์ รมต.ปาร์ค กล่าวว่า “ความพยายามใด ๆ ที่จะช่วยเหลือโครงการอันผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือ หรือเพื่อเข้ามาเกี่ยวข้องกับการซื้อขายอาวุธกับเกาหลีเหนือ” ต้อง “ยุติลง” พร้อมเสริมว่า การพัฒนาขีปนาวุธแบบทิ้งตัวและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็นการละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างชัดแจ้งด้วย
ขณะเดียวกัน ปีนี้เป็นปีที่ครบรอบ 70 ปีของการเป็นพันธมิตรระหว่างสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ และกรุงโซลก็กำลังเตรียมจัดงานใหญ่ที่เน้นการจัดขบวนพาเหรดทางทหารซึ่งจะมีขึ้นในวันอังคาร
การสำรวจความคิดเห็นของประชาชนโดยสำนักวิจัย Gallup Korea ระหว่างวันที่ 4-8 กันยายนชี้ว่า 91.6% ของผู้ตอบแบบสอบถามจำนวน 1,238 คน กล่าวว่า ความเป็นพันธมิตรระหว่างสองประเทศนั้นเป็นสิ่งสำคัญ โดย 53.7% ให้ความเห็นว่า การเป็นพันธมิตรนี้น่าจะดำเนินต่อไปพร้อม ๆ กับมีการยกระดับให้เข้มแข็งควบคู่กันไปด้วย
- ที่มา: วีโอเอ