รถยนต์ขาดตลาด-การปรับพฤติกรรมการใช้จ่าย ทำยอดขายปลีกในสหรัฐฯ ลดลงเดือนก.ค.

A customer exits a corner market while wearing a protective mask in the retail shopping district of the SoHo neighborhood of the Manhattan borough of New York, May 14, 2021.

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ รายงานว่า ยอดขายปลีกสินค้าในสหรัฐฯ ในเดือนกรกฎาคม ลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ สืบเนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ไม่เพียงพอความต้องการของผู้ซื้อ และการจับจ่ายของผู้บริโภคลดลง

ยอดขายปลีกของสหรัฐฯลดลง 1.1% ในเดือนกรกฎาคม หลังจากที่เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเดือนมิถุนายนหลังจากที่ประชาชนส่วนใหญ่ได้รับเงินช่วยเหลือรอบที่สามจากรัฐบาลอเมริกัน โดยยอดขายรถยนต์ตกลง 3.9% เนื่องจากจำนวนรถยนต์ที่ไม่เพียงพอเพราะปัญหาชิพคอมพิวเตอร์ขาดตลาด

ตัวเลขเศรษฐกิจล่าสุดของสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวลงเล็กน้อยในช่วงแรกของไตรมาสที่สาม อย่างไรก็ตาม คาดว่าปริมาณการใช้จ่ายของคนอเมริกันจะเพิ่มขึ้นในปลายเดือนสิงหาคมเมื่อโรงเรียนในรัฐต่าง ๆ กลับมาเปิดภาคเรียนอีกครั้ง แม้จะยังมีความกังวลเรื่องการระบาดของไวรัสโควิดสายพันธุ์เดลตา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ส่วนหนึ่งของยอดขายที่ลดลงในเดือน ก.ค. เป็นเพราะผู้บริโภคเปลี่ยนพฤติกรรมจากการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคไปเป็นการซื้อบริการ เช่น การท่องเที่ยว และความบันเทิงมากขึ้น ในช่วงที่เริ่มมีการเปิดภาคธุรกิจใหม่ ๆ ในขณะที่ยอดขายตามร้านอาหารและบาร์ต่าง ๆ เพิ่มขึ้น 38.4% จากปีที่แล้ว

รายงานระบุว่า พื้นฐานการใช้จ่ายของคนอเมริกันในปีนี้ยังคงแข็งแรง การจ้างงานเพิ่มขึ้นพร้อมกับอัตราเงินเดือนที่สูงขึ้น ในขณะที่เงินออมของภาคครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นกัน

(ที่มา: รอยเตอร์)