คนอเมริกันสามในสี่เชื่อประชาธิปไตยตกอยู่ในอันตราย แต่เพียงหนึ่งในสามเชื่อว่าโจ ไบเดนจะแก้ปัญหาได้

Président elect Joe Biden (D) na président Donald Trump (G) na bilili ya kosangisa, 22 octobre 2020.

Your browser doesn’t support HTML5

US Democracy Under Threat

การสำรวจความคิดเห็นของคนอเมริกันผู้ลงทะเบียนใช้สิทธิเลือกตั้ง 1,239 คนซึ่งทำโดยมหาวิทยาลัย Quinnipiac ระหว่างวันที่ 7-10 มกราคม หลังเหตุการณ์ที่ผู้สนับสนุนประธานาธิบดีทรัมป์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ แสดงว่าขณะนี้ราวสามในสี่ของชาวอเมริกันเชื่อว่าระบอบประชาธิปไตยของประเทศกำลังตกอยู่ในอันตราย และมีเพียงหนึ่งในสามเท่านั้นที่เชื่อว่าโจ ไบเดนจะสามารถทำให้เกิดความสามัคคีในชาติได้

โดยมหาวิทยาลัย Quinnipiac เผยแพร่ผลการสำรวจที่ทำขึ้นหลังเหตุการณ์บุกเข้ายึดรัฐสภาในกรุงวอชิงตันซึ่งแสดงว่ากว่า 70% ของทั้งสมาชิกพรรครีพับลิกันกับพรรคเดโมแครตเชื่อว่าขณะนี้ระบอบประชาธิปไตยของประเทศกำลังถูกคุกคาม โดย 77% ของชาวพรรครีพับลิกันกับ 76% ของชาวพรรคเดโมแครตมีความเห็นตรงกัน และ 70% ของคนอเมริกันที่ไม่สังกัดพรรคใดก็มีความเห็นทำนองเดียวกันด้วย และส่วนใหญ่ของผู้ตอบแบบสอบถามคือ 56% เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ควรต้องรับผิดชอบสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเมื่อเทียบกับ 42% ที่เห็นว่าโดนัลด์ ทรัมป์ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้

ตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง 3 พฤศจิกายนปีที่แล้วเป็นต้นมาประธานาธิบดีทรัมป์ได้กล่าวหาหลายครั้งโดยไม่มีหลักฐานยืนยันว่าตนถูกโกงเลือกตั้ง และได้เร่งเร้าให้ผู้สนับสนุนเดินขบวนในกรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 6 มกราคม แต่หลังจากที่เกิดเหตุการณ์บุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาแล้วประธานาธิบดีทรัมป์ได้ทวีตเรียกร้องให้คนเหล่านี้อยู่ในความสงบและช่วยสนับสนุนการทำงานของตำรวจสภากับเจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย แต่ก็ได้เผยแพร่วิดีโอที่กล่าวว่าเรารักพวกคุณและคุณเป็นคนที่พิเศษมากด้วย

สำหรับคำถามที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์ควรถูกปลดจากตำแหน่งก่อนที่วาระการเป็นประธานาธิบดีจะสิ้นสุดลงในวันที่ 20 มกราคมนี้หรือไม่คนอเมริกัน 52 ต่อ 45% เห็นว่าสมควร อย่างไรก็ตามถ้าแยกตามพรรคแล้วจะเห็นได้ว่าชาวพรรครีพับลิกัน 87% ไม่เห็นด้วยขณะที่ 89% ของชาวพรรคเดโมแครตสนับสนุนเรื่องนี้ และสำหรับคนอเมริกันที่เป็นอิสระไม่สังกัดพรรคใดนั้น 55% เห็นว่าประธานาธิบดีทรัมป์ควรจะถูกปลดส่วน 43% เห็นว่าไม่สมควร

นอกจากนั้น ชาวพรรครีพับลิกันกับชาวพรรคเดโมแครตดูจะมีความเชื่อที่ต่างกันอย่างชัดเจนในเรื่องที่ว่ามีการโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดีตามที่โดนัลด์ ทรัมป์กล่าวอ้างไว้หรือไม่ คือ 73% ของชาวพรรคพรรครีพับลิกันเชื่อว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางส่วนชาวพรรคเดโมแครต 93% เชื่อว่าไม่มี และ 60% ของคนอเมริกันผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งซึ่งไม่สังกัดพรรคใดเชื่อว่าไม่ได้มีปัญหาทุจริตคดโกงการเลือกตั้งเกิดขึ้นขณะที่ 30% เชื่อว่ามี

อีกประเด็นหนึ่งซึ่งคนอเมริกันมีความเห็นแตกแยกกันคือคำถามที่ว่าการบุกเข้าไปในอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคมถือได้ว่าเป็นความพยายามยึดอำนาจหรือไม่โดย 47% ของคนอเมริกันเห็นว่าเป็น ส่วนอีก 43% เชื่อว่าเรื่องนี้ไม่เข้าข่ายและอีก 10% ไม่แน่ใจ อย่างไรก็ตาม 91% ของผู้ที่ให้ความเห็นในการสำรวจนี้เห็นว่าบุคคลต่างๆ ที่บุกเข้ายึดอาคารรัฐสภาควรต้องถูกลงโทษและ 81% เห็นด้วยว่าขณะนี้แนวความคิดแบบสุดโต่งกำลังเป็นปัญหาใหญ่ในอเมริกา

สำหรับคำถามที่ว่าหลังจากวันที่ 20 มกราคมนี้ไปแล้วประธานาธิบดีโจเซฟ ไบเดนจะสามารถสร้างความสมานฉันท์ได้หรือไม่นั้นมีเพียง 31% เท่านั้นที่คิดว่าโจ ไบเดนจะสามารถสร้างความสามัคคีในชาติได้สำเร็จขณะที่ 56% เชื่อว่าความแตกแยกแบ่งพรรคแบ่งฝ่ายจะยังมีอยู่เหมือน อย่างที่เป็นในขณะนี้ และอีก 14% ตอบว่าไม่แน่ใจ