ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ยืนยันในวันพฤหัสบดีที่ทำเนียบขาวว่า การตัดสินใจเรื่องการตอบสนองของสหรัฐฯ ต่อข้อกล่าวหาว่าซีเรียใช้อาวุธเคมีนั้น "จะมีขึ้นเร็วๆ นี้"
คำกล่าวของผู้นำสหรัฐฯ มีขึ้นก่อนการประชุมกับที่ปรึกษาด้านความมั่นคง เกี่ยวกับสถานการณ์ในซีเรีย
โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ เพิ่งทวีตว่า ตนไม่เคยกล่าวว่าการโจมตีซีเรียจะเกิดขึ้นเมื่อไร และทวีตด้วยว่า "อาจเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ หรืออาจไม่ใช่เร็วๆ นี้ก็ได้"
ทวีตล่าสุดของ ปธน.สหรัฐฯ เกิดขึ้นหลังจากเมื่อวานนี้เขาเพิ่งทวีตเตือนรัสเซียว่าอย่าเข้าข้างซีเรีย และระบุว่า "จะมีจรวดยิงไปซีเรีย" ด้วย
Never said when an attack on Syria would take place. Could be very soon or not so soon at all! In any event, the United States, under my Administration, has done a great job of ridding the region of ISIS. Where is our “Thank you America?”
— Donald J. Trump (@realDonaldTrump) April 12, 2018
ทำเนียบขาวระบุว่า ปธน.ทรัมป์ กำลังพิจารณาการโจมตีซีเรียด้วยขีปนาวุธ ว่าเป็นทางเลือกหนึ่งในการตอบสนองต่อข้อกล่าวหาที่สหรัฐฯ มีต่อซีเรียล่าสุด เรื่องการใช้อาวุธเคมีโจมตีใส่ประชาชนในเมืองกูตา ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 คน บาดเจ็บอีกกว่า 500 คน เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน ปธน.ฝรั่งเศส เอ็มมานูเอล มาคร็อง กล่าวในวันพฤหัสบดีว่า ฝรั่งเศสมีหลักฐานที่ชี้ให้เห็นว่ารัฐบาลประธานาธิบดี บะชาร์ อัล-อัสซาด ใช้อาวุธเคมีโจมตีในซีเรีย และจะเปิดเผยหลักฐานดังกล่าวเมื่อถึงเวลาเหมาะสม
เมื่อวันพุธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ จิม แมททิส ระบุไว้ว่า ทางเลือกทางการทหารนั้นได้เตรียมไว้พร้อมแล้ว หากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจเลือกวิธีนี้
ทวีตที่ค่อนข้างสับสนของผู้นำสหรัฐฯ ในช่วงสองวันที่ผ่านมา มีขึ้นหลังจากรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งร่างมติของสหรัฐฯ ต่อคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติ ให้มีคณะกรรมการตรวจสอบและหาผู้กระทำผิดจากรายงานการใช้อาวุธเคมีทำร้ายประชาชนเมื่อวันเสาร์ ที่เมืองกูตตา ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 40 คน
โดยสหรัฐฯ และพันธมิตรเชื่อว่ารัฐบาลซีเรียอยู่เบื้องหลังการโจมตีด้วยอาวุธเคมีครั้งนี้
นอกจากนี้การเตือนครั้งล่าสุดโดยผู้นำสหรัฐฯ ยังเป็นปฏิกิริยาตอบโต้การประกาศของทูตรัสเซียในประเทศเลบานอนที่กล่าวว่ากองทัพรัสเซียจะยิงสกัดจรวดขีปนาวุธใดๆที่พุ่งมาสู่ซีเรีย
โดยรัสเซียประกาศในวันพฤหัสบดีว่า เวลานี้กองทัพซีเรียสามารถยึดครองเมืองกูตา ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของการสู้รบครั้งล่าสุด ได้อย่างสมบูรณ์แล้ว