การ์ตูน Beauty and the Beast ซึ่งดิสนีย์ปัดฝุ่นเป็นระบบ 3D ติดที่สอง ส่วน Contraband ทำได้ดีเกินคาดหมายตรงอันดับหนึ่ง

  • จำเริญ ตัณฑ์สมบุญ

การ์ตูน Beauty and the Beast ซึ่งดิสนีย์ปัดฝุ่นเป็นระบบ 3D ติดที่สอง ส่วน Contraband ทำได้ดีเกินคาดหมายตรงอันดับหนึ่ง

สุดสัปดาห์กลางเดือนมกราท่ามกลางอากาศอันหนาวเหน็บยังไม่มีหนังใหญ่มาเปิดตัว แต่ก็มีหนังใหม่เข้ามาแทรก 3 อันดับ และ Sherlock Holmes: A Game of Shadow หนังแนวนักสืบที่ต่อยอดจากความสำเร็จของตอนที่หนึ่ง ซึ่งเน้นที่ฉากแอคชั่นและการขายดารามากกว่าบทภาพยนต์ ร่วงหล่นจาก 3 มาเป็นที่ 5

หนังใหม่หนึ่งในสามเรื่องของสุดสัปดาห์คือ Joyful Noise ภาพยนต์แนวเพลงที่นำนักร้องระดับ Diva ใหญ่สองนาง คือ Queen Latifah กับ Dolly Parton มาเป็นคู่กัดกัน แต่ก็ช่วยประคับประคองคณะนักร้องเพลงของโบสถ์แห่งหนึ่งในชนะการแข่งขันจนไปถึงดวงดาว Joyful Noise ส่งเสียงเอะอะอยู่ได้ที่อันดับ 4

ส่วนภาพยนต์แนวแอคชั่นอย่างแท้จริงที่ชวนติดตามคือ Mission: Impossible – Ghost Protocol หรือ Mission: Impossible ภาค 4 ปฏิบัติการไร้เงาซึ่งค้างฟ้ามาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว สุดสัปดาห์นี้ M:I-4 วิ่งหนีพายุทรายจากอันดับ 2 ลงมาเป็น 3

และ Disney เปิดกรุสมบัติเก่าคว้า Beauty and the Beast การ์ตูนคลาสสิคอายุ 21 ปี มาปัดฝุ่นทำใหม่ในระบบ 3D โดยสาวงามกับเจ้าชายอสูรที่กลับมาในมาดสามมิติครั้งนี้ติดอันดับที่ 2 ในสุดสัปดาห์แรกพร้อมรายได้ราว 18.5 ล้านดอลล่าร์

สำหรับภาพยนต์ที่ครองอันดับหนึ่งเป็นแนวแอคชั่นซึ่งสร้างผลงานดีกว่าที่คาดไว้ คือ Contraband ซึ่งนำ Mark Wahlberg มาในบทอาชญากรมือเก่าผู้ต้องหวนกลับสู่วงการทำงานชิ้นสำคัญเพื่อช่วยชีวิตน้องเขย และต้องปกป้องครอบครัวจากการถูกคุกคามในเวลาเดียวกัน Contraband หรือสินค้าเถื่อนนี้ สามารถลักลอบนำเข้าคนดูและรายได้ สร้างผลตอบแทนเกินความคาดหมายในสุดสัปดาห์แรกราว 24 ล้านดอลล่าร์ที่อันดับ 1