ศาลโลกตัดสินให้ไทยกับกัมพูชาถอนทหารออกจากเขาพระวิหารทันทีพร้อมประกาศให้เป็นเขตปลอดทหาร

  • Daniel Schearf
    ทรงพจน์ สุภาผล

ศาลโลกตัดสินให้ไทยกับกัมพูชาถอนทหารออกจากเขาพระวิหารทันทีพร้อมประกาศให้เป็นเขตปลอดทหาร

ศาลโลกในกรุงเฮกมีคำตัดสินให้ไทยกับกัมพูชาถอนทหารออกจากพื้นที่ความขัดแย้งบริเวณเขาพระวิหารทันทีและประกาศให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นเขตปลอดทหารชั่วคราว ซึ่งผู้แทนทั้งสองประเทศที่เข้าร่วมฟังคำตัดสินมีท่าทียินดียอมรับคำตัดสินของศาลโลกในครั้งนี้

ศาลโลกในกรุงเฮกมีคำตัดสินว่าไทยกับกัมพูชาควรถอนทหารออกจากพื้นที่ความขัดแย้งรอบปราสาทพระวิหาร และอนุญาตให้ผู้สังเกตการณ์ของสมาคมอาเซียนเข้าไปในพื้นที่ดังกล่าวเพื่อป้องกันความรุนแรงรอบใหม่

ประธานผู้พิพากษาศาลโลก Hisashi Owada อ่านคำตัดสินโดยระบุว่า ผู้พิพากษามีคะแนนเสียง 11 ต่อ 5 ให้ไทยและกัมพูชาถอนทหารทันทีออกจากพื้นที่ที่ได้ประกาศเป็นเขตปลอดทหารตามที่ระบุไว้ในคำสั่งย่อหน้าที่ 62 และให้ระงับปฏิบัติการทางทหารใดๆก็ตามในพื้นที่ดังกล่าวจนกว่าจะมีคำตัดสินรอบสุดท้าย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยและกัมพูชาที่เข้าร่วมฟังคำตัดสินครั้งนี้มีท่าทีพอใจและยืนยันว่าพร้อมปฏิบัติตาม

ศาลโลกระบุว่าเวลานี้ควรมีมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันความเสียหายที่ไม่อาจแก้ไขได้ ในขณะที่กำลังมีการพิจารณาต่อไปว่าพื้นที่ดังกล่าวควรอยู่ในความครอบครองของประเทศใด

รัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้ยื่นคำร้องต่อศาลโลกเพื่อให้ตีความคำตัดสินเมื่อปี พ.ศ.2505 ที่ระบุไว้ว่าปราสาทเขาพระวิหารอยู่ในเขตกัมพูชา ซึ่งรัฐบาลไทยได้ขอให้ศาลโลกยกเลิกคำร้องดังกล่าวของกัมพูชาแต่ศาลโลกมีคำสั่งปฏิเสธ และผู้พิพากษาศาลโลกยังมีคำสั่งให้ไทยอนุญาตให้ชาวกัมพูชาสามารถเดินทางไปถึงตัวปราสาทพระวิหารได้

ทางด้านนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวว่าคำตัดสินของศาลโลกครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อลดความตึงเครียด ป้องกันความเข้าใจผิดและอุบัติเหตุต่างๆ และตนเชื่อว่าทั้งไทยกับกัมพูชาควรทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออกเรื่องนี้ อย่างไรก็ตามทางรัฐบาลกัมพูชายังมิได้ออกแสดงความเห็นในเรื่องนี้

ทางด้านคุณ Michael Montesano นักวิจัยรับเชิญที่สถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาในสิงคโปร์ มีความเห็นว่าคำตัดสินของศาลโลกครั้งนี้อาจถือว่าเป็นชัยชนะของกลุ่มชาตินิยมในประเทศไทยที่พยายามจุดประเด็นเรื่องเขาพระวิหารเพื่อจุดประสงค์ทางการเมือง พร้อมทั้งระบุว่าเป็นคำตัดสินที่อาจสร้างความผิดหวังให้กับทางกัมพูชา และว่าเวลานี้ชาวกัมพูชาต่างรู้สึกว่าตกอยู่ในฐานะเดียวกับไทย คือยังไม่มีความแน่นอนเรื่องสิทธิ์ครอบครองตัวปราสาทพระวิหารแต่อย่างใด