หลายเมืองในสหรัฐฯ ยกเลิกจุดพลุวันชาติ ชี้ปัญหาห่วงโซ่อุปทาน-ไฟป่า

FILE - Fourth of July fireworks explode over the Lincoln Memorial, the Washington Monument and the U.S. Capitol along the National Mall in Washington, July 4, 2020.

เป็นเวลาติดต่อกันถึงสามปีที่หลาย ๆ เมืองในฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ จำต้องยกเลิกการจุดพลุเฉลิมฉลองวันชาติ เหตุเพราะการจัดแสดงพลุในสภาพอากาศที่แห้งอยู่แล้วอาจทำให้เกิดไฟป่าลุกลามได้ บวกกับปัญหาจำนวนเจ้าหน้าที่ตามจุดต่าง ๆ ที่ลดลงตั้งแต่การระบาดของโคโรนาไวรัส และการขาดแคลนพลุเนื่องจากระบบห่วงโซ่อุปทานยังส่งผลในการตัดสินใจข้างต้นด้วย

จูลีย์​ เฮ็กแมน ผู้อำนวยการสมาคมพลุอเมริกัน ยกตัวอย่างถึง เมืองฟีนิกซ์ในรัฐแอริโซนาที่ยกเลิกการจัดแสดงพลุเพราะไม่สามารถหาพลุขนาดใหญ่ (professional grade) มาจุดได้ แต่เมืองรอบ ๆ ฟีนิกซ์ยังจะคงมีการจัดแสดงอยู่ และคนส่วนใหญ่จะยังสามารถเดินทางไปชมพลุในบริเวณที่ไม่ไกลมาจากบ้านของพวกเขาได้

ผู้อำนวยการสมาคมพลุอเมริกันผู้นี้ อธิบายถึงต้นตอของปัญหาว่า เกิดจากองค์ประกอบหลายอย่าง ตั้งแต่การนำเข้าพลุจากต่างประเทศ การขาดแคลนรถบรรทุกในประเทศเพื่อขนส่งพลุ ค่าประกันภัยที่สูงขึ้น การขาดแคลนเจ้าหน้าที่เวลาทำการจัดแสดงและจุดพลุ และความต้องการพลุจากสถานที่ต่าง ๆ เช่น งานแสดงดนตรี สนามกีฬา ที่พุ่งสูงขึ้นมากในเวลานี้ เพราะในช่วงสองปีที่ผ่านมาจำต้องงดการฉลองเพราะการระบาดของโควิด

LUNAR-NEWYEAR/CHINA-FIREWORKS

หลายคนอาจหันไปมองกรณีการดำเนินมาตรการจำกัดต่าง ๆ ของรัฐบาลกรุงปักกิ่งในการควบคุมโควิดในประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศผู้ผลิตระดับตระการตารายใหญ่ (professional-grade fireworks) โดยพลุจากจีนสามารถพุ่งทะยานสูงขึ้นไปบนท้องฟ้าและเปล่งประกายเป็นรูปและสีต่าง ๆ ได้อย่างงดงาม แต่ จูลีย์​ เฮ็กแมน กล่าวว่า ปัญหาไม่ได้อยู่ที่การผลิตพลุในจีน และเป็นเรื่องของความแออัดของท่าเรือในสหรัฐฯ ต่างหาก

U.S. Shipping Containers

และเมื่อเร็ว ๆ นี้บริษัทบางแห่งได้แก้ปัญหาข้างต้นด้วยการเหมาเรือจำนวนหลายลำให้เคลื่อนย้ายพลุจากท่าเรือในรัฐแอละแบมาและรัฐลุยเซียนาไปยังฝั่งตะวันตกของสหรัฐฯ ซึ่งเรือแต่ละลำนั้นลำเลียงตู้คอนเทนเนอร์ถึง 200-250 ตู้ที่บรรทุกพลุเกรดที่ผู้บริโภคทั่วไปสามารถจุดเล่นเองได้

ส่วนตามเมืองอื่น ๆ ในสหรัฐฯ เช่น เมืองลอมปอคในรัฐแคลิฟอร์เนีย เมืองแคสเซิล ร็อค ในรัฐโคโลราโด และ เมืองแฟลกซ์สตาฟ ทางตอนเหนือของรัฐแอริโซนาก็มีการงดจุดพลุเช่นกัน แต่ด้วยเหตุผลที่ว่า การจุดพลุอาจเพิ่มความเสี่ยงทำให้เกิดไฟป่าลุกลามได้

นั่นเป็นเพราะ ในช่วงฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านมา เกิดเหตุไฟป่าขนาดใหญ่ในเมืองแฟลกซ์สตาฟ ซึ่งทำลายบ้านไปจำนวนหนึ่ง ทั้งยังส่งผลกระทบให้ผู้คนหลายร้อยคนต้องอพยพ และเจ้าหน้าที่ต้องสั่งปิดถนนไฮเวย์สายหลักด้วย ดังนั้น ทางการเมืองแฟลกซ์สตาฟจึงเลือกที่จะจัดการแสดงแสงเลเซอร์เพื่อเฉลิมฉลองวันชาติแทนการจุดพลุ

Arizona Wildfires

นอกจากนี้ เทศบาลท้องถิ่นในหลายพื้นที่ เช่น ที่ทะเลสาบ ดอน เพโดร ในรัฐแคลิฟอร์เนียที่ผู้คนมักจะพักผ่อนเพื่อฉลองวันชาติเป็นจำนวนมากก็ได้สั่งระงับการจุดพลุเพราะภัยแล้งที่รุนแรง ขณะที่ อุทยานแห่งชาติทุกแห่งทั่วสหรัฐฯ ได้ห้ามไม่ให้มีการจุดพลุในบริเวณเขตอุทยานเสมอมาด้วย

สำนักงานนันทนาการ Don Pedro Recreation Agency ระบุในคำแถลงการณ์ว่า ความปลอดภัยของผู้คนและการทำหน้าที่เป็นผู้ดูแลพื้นที่ที่ทางหน่วยงานได้รับความไว้วางใจให้ดูแล คือความรับผิดชอบที่มีความสำคัญที่สุดของตน

ทางด้านรัฐนอร์ทแคโรไลนา บางเมืองได้ยกเลิกการจุดพลุเนื่องจากเกิดเหตุพลุระเบิดขนาดใหญ่เมื่อเร็ว ๆ นี้ที่ฟาร์มเล็ก ๆ แห่งหนึ่ง จนทำให้ชายผู้หนึ่งเสียชีวิต ซ้ำอุบัติเหตุครั้งนี้ยังทำให้สูญเสียพลุจำนวนมากที่จะทางการตั้งใจจะนำมาใช้ในการจัดงานแสดงพลุของเมืองอีกด้วย

ส่วนเมืองมินนิอาโพลิสนั้นได้ยกเลิกการจัดแสดงพลุบริเวณแม่น้ำมิสซิสซิปปีเพราะขาดแคลนเจ้าหน้าที่ และมีการก่อสร้างในบริเวณของสวนสาธารณะในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ ใช่ว่าทุกที่จะยกเลิกการจุดพลุหมด เพราะแม้รัฐนิวเม็กซิโกจะเผชิญกับเหตุไฟป่าที่มีความรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐ แต่เมืองอัลบูเคอร์กีและซานตาเฟ่ยังจะทำการจุดพลุในโอกาสงานเฉลิมฉลองวันชาติอยู่ โดยจะมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเฝ้าดูสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

สมาคมพลุอเมริกันประเมินว่า ผู้บริโภคที่อยากซื้อพลุมาจุดเองจะเผชิญกับราคาที่สูงขึ้นและต้องควักเงินในกระเป๋าเพิ่มขึ้นถึง 35% ทั่วประเทศ ซึ่งทำให้เจ้าหน้าที่จากสถานีดับเพลิงในหลาย ๆ เมืองได้แสดงความกังวลว่า การยกเลิกการจัดแสดงพลุในวันชาติตามพื้นที่ต่าง ๆ อาจทำให้คนหันไปซื้อพลุมาจุดเองมากขึ้น และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุมากขึ้น

  • ที่มา: เอพี