ซัมซุง-ไมครอน เตือน คำสั่งล็อกดาวน์ ‘ซีอาน’ อาจกระทบภาคการผลิตชิปหน่วยความจำ

Workers in protective suits stand at an entrance to a university's residential area under lockdown following the coronavirus disease (COVID-19) outbreak in Xian, Shaanxi province, China, Dec. 20, 2021. (China Daily via Reuters)

Your browser doesn’t support HTML5

Business News


บริษัท ซังซุง อิเล็กทรอนิกส์ (Samsung Electronics) และ บริษัท ไมครอน เทคโนโลยี (Micron Technology) ซึ่งเป็นผู้ผลิตชิปหน่วยความจำ (memory chip) รายใหญ่ที่สุดในโลก ออกมาเตือนว่า มาตรการควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนของรัฐบาลเมืองซีอาน ประเทศจีน อาจส่งผลกระทบต่อฐานการผลิตชิปในพื้นที่ดังกล่าว ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์

ตั้งแต่เมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา เมืองซีอาน สั่งดำเนินมาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดระลอกใหม่ของโควิด-19 พร้อมสั่งจำกัดการเดินทางเข้าออกเมืองแห่งนี้ด้วย แต่แผนงานดังกล่าวกลับกลายมาเป็นปัญหาใหญ่สำหรับผู้ส่งออกในประเทศที่ประสบปัญหาค่าขนส่งพุ่งสูงในปีที่ผ่านมา เนื่องจากการหยุดชะงักของระบบโลจิสติกส์โลก ขณะที่ต้นทุนวัตถุดิบ ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ เพิ่มขึ้นอย่างมากเพราะวิกฤตการระบาดของโคโรนาไวรัสในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

บริษัท ไมครอน กล่าวในวันพุธว่า มาตรการล็อกดาวน์ล่าสุดนี้อาจทำให้เกิดความล่าช้าในการจัดส่งชิปหน่วยความจำแบบ DRAM ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ใช้งานกันอย่างกว้างขวางตามศูนย์ข้อมูลต่างๆ ขณะที่ มาตรการควบคุมเข้มงวดในเมืองซีอาน อาจะทำให้ความพยายามแก้ไขปัญหาขาดแคลนพนักงานที่โรงงานผลิตทั้งหลายยากขึ้นไปอีกด้วย

ขณะเดียวกัน ซัมซุง กล่าวว่า บริษัทจะทำการปรับเปลี่ยนการปฏิบัติงานที่ศูนย์ผลิตของตนในเมืองซีอานเป็นการชั่วคราว เฉพาะในส่วนของการผลิตชิปหน่วยความจำแฟลช NAND ซึ่งใช้งานสำหรับการจัดเก็บข้อมูลตามศูนย์ข้อมูลทั่วไป รวมทั้งสำหรับโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ไฮเทคต่างๆ

สื่อท้องถิ่นในจีนรายงานในวันพฤหัสบดีว่า โรงงานผลิตเซมิคอนดักเตอร์ของซัมซุงในเมืองซีอานยังคงเปิดทำการตามปกติ ขณะที่ บริษัทวิเคราะห์ธุรกิจ TrendForce ให้ความเห็นว่า โรงงานของซัมซุงน่าจะยังคงดำเนินกิจการได้ต่อไปอีกระยะ เนื่องจากยังมีซัพพลายวัตถุดิบต่างๆ เหลือพอใช้ แต่หากภาวะระบาดใหญ่เกิดบานปลายยืดยาวต่อไป จำนวนของที่ผลิตออกมาได้จากที่นี่น่าจะลดลงบ้าง

อย่างไรก็ตาม ยาน เจิงยิง จากบริษัทที่ปรึกษา Bayes Consulting ในกรุงปักกิ่ง เชื่อว่า ผลกระทบโดยรวมจากสถานการณ์ในซีอานต่อปริมาณซัพพลายชิปหน่วยความจำทั่วโลก น่าจะไม่รุนแรงเท่าใด แม้ยังมีความไม่แน่นอนว่า ทางการจีนจะควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสได้เร็วเพียงใด และโรงงานต่างๆ จะกลับมาเปิดสายการผลิตเต็มที่ได้เมื่อใด

(ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์)