แมลงและสัตว์ผสมเกสรดอกไม้ทั่วโลกกำลังถูกคุกคามด้วยน้ำมือมนุษย์

A bee gathers honey from an orange blossom in the Israeli Mediterranean coastal city of Netanya on March 13, 2016.

ผลการศึกษาชี้ว่า 16 เปอร์เซ็นต์ของสัตว์ผสมเกสรที่มีกระดูกสันหลัง อาทิ นก ค้างคาว และสัตว์อื่นๆ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากโลก

Your browser doesn’t support HTML5

Pollinators At Risk

ผลการศึกษาชิ้นใหม่พบว่าแมลงชนิดต่างๆ รวมทั้ง นก ค้างคาว ที่มีบทบาทสำคัญในการผสมเกสรพันธุ์พืชและดอกไม้ กำลังลดจำนวนลงอย่างมาก และมีโอกาสเสี่ยงสูงมากขึ้นที่จะสูญพันธุ์ได้ในอนาคต

องค์กรสำหรับเวทีนโยบายวิทยาศาสตร์ระหว่างรัฐบาลว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพและบริการจากระบบนิเวศหรือ IPBES (Intergovernmental Science-Policy Platform on Biodiversity and Ecosystem Services) ทำการศึกษาเรื่องนี้นาน 2 ปี และพบว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของแหล่งผลิตอาหารของโลกต้องพึ่งพา ผึ้ง นกและสัตว์ผสมเกสรชนิดอื่นๆ เป็นหลัก

ซึ่งเเสดงให้เห็นความสำคัญของแมลงและสัตว์ผสมเกสรต่อความมั่นคงทางอาหารของโลก แต่เเมลงและสัตว์ผสมเกสรเหล่านี้กำลังถูกคุกคามและลดจำนวนลงอย่างมาก

ผลการศึกษานี้ชี้ว่า 16 เปอร์เซ็นต์ของสัตว์ผสมเกสรที่มีกระดูกสันหลัง อาทิ นก ค้างคาว และสัตว์อื่นๆ เสี่ยงต่อการสูญพันธุ์ไปจากโลก และหากเป็นพื้นที่เกาะ ตัวเลขนี้จะสูงขึ้นเท่าตัว

ในระดับท้องถิ่นไม่ว่าจะเป็นที่ใดในโลก เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์ของแมลงผสมเกสรซึ่งรวมทั้งผึ้งและผีเสื้อกำลังถูกคุกคาม และลดจำนวนลง

เซอร์ โรเบิร์ต วัตสัน ผู้อำนวยการฝ่ายแห่ง IPBES กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงลักษณะการใช้ที่ดินเป็นปัจจัยหลักของปัญหานี้ วิธีทำการเกษตรแผนใหม่ที่เร่งผลผลิต การใช้สารเคมีฆ่าแมลง การระบาดของสัตว์ และแมลงต่างถิ่น โรคและเเมลงศัตรู ตลอดจนการเปลี่ยนแปลงทางสภาวะอากาศโลก ยังเป็นปัจจัยเสริมที่ทำให้ประชากรแมลงและสัตว์ผสมเกสรลดลง

สารเคมีฆ่าแมลง โดยเฉพาะสารเคมีที่มีส่วนผสมของสารนีโอนิโคตินอย ถือว่าเป็นสารเคมีตัวร้ายที่ส่งผลเสียต่อผึ้งธรรมชาติ

และเเม้ว่าทีมนักวิจัยนี้ จะยอมรับว่าทีมงานยังไม่มีข้อมูลที่เพียงพอและต้องศึกษาเรื่องนี้เพิ่มเติม พวกเขายืนยันว่ามีความชัดเจนในด้านความเกี่ยวข้องระหว่างปัจจัยเหล่านี้ข้างต้น กับการลดจำนวนลงของสัตว์และแมลงผสมเกสร

บรรดาเจ้าหน้าที่อาวุโสของหน่วยงาน IPBES ที่ทำการศึกษาเรื่องนี้ชี้ว่า มีมาตรการง่ายๆ หลายอย่างที่นำออกมาปฏิบัติได้ เพื่อลดความเสี่ยงและอาจจะช่วยส่งเสริมให้สัตว์และแมลงผสมเกสรที่ถูกคุกคามให้เพิ่มจำนวนประชากรขึ้น

หากดูประเด็นของผึ้งที่ช่วยผสมพันธุ์พืชผักและผลไม้ 1 ใน 3 ของทั้งหมด รายงานผลการศึกษานี้เเนะนำว่า ควรเพิ่มที่อยู่อาศัยที่หลากหลายให้แก่ผึ้งธรรมชาติที่อาศัยใกล้กับพื้นที่เกษตรกรรมและใกล้เขตเมือง การลดการใช้สารเคมีฆ่าแมลง และการจัดการประชากรผึ้งเพื่อรับมือกับความเสียหายที่เกิดจาก โรค แมลงศัตรูและแมลงต่างถิ่น

ทีมนักวิจัยหวังว่าผลการศึกษานี้จะช่วยกระตุ้นให้บรรดาเกษตรกร นักวิทยาศาสตร์ และบริษัทด้านการเกษตร ร่วมมือกันเพื่อช่วยปกป้องการเกษตรที่ผลิตพืชผลทางการเกษตรแก่โลกมูลค่ากว่าสองแสนสามหมื่นล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ ต่อปี

คุณ Jose Graziano da Silva ผุ้อำนวยการโครงการอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติชี้ว่า ชาวนาโดยเฉพาะชาวนารายเล็กทั่วโลก ต้องพึ่งพาผึ้งและแมลงผสมเกสรเป็นหลักในการช่วยผสมพันธุ์พืชและผลไม้ตามธรรมชาติ

ดังนั้นการเพิ่มจำนวนประชากรและความหลากหลายของสัตว์และแมลงผสมเกสร จะมีผลดีโดยตรงต่อปริมาณผลผลิตทางการเกษตรและสร้างความมั่นคงทางอาหารและโภชนาการของโลกตามมา

สหประชาชาติประมาณว่า หากผึ้งและสัตว์ผสมเกสรมีสุขภาพแข็งเเรง โลกจะสามารถผลิตอาหารได้มากขึ้นในการเลี้ยงปากท้องประชากรมนุษย์จำนวนเกือบ 800 ล้านคนทั่วโลก ที่มีอาหารรับประทานไม่เพียงพอในขณะนี้

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)