หลายเมืองในยุโรปเสี่ยงต่อภาวะ 'ฟองสบู่' ภาคอสังหาฯ

FILE - Luxury apartment complex One Hyde Park is seen London, May 2, 2014. Anti-corruption campaigners see it as a landmark to Britain’s hypocritical role in offshore finance.

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ความเสี่ยงของการเกิดฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ของประเทศกลุ่มยูโรโซนเพิ่มมากขึ้น ท่ามกลางดอกเบี้ยที่ต่ำซึ่งช่วยกระตุ้นให้ราคาบ้านแพงขึ้น

นครมิวนิคของเยอรมนี ติดอันดับหนึ่ง ในเรื่องความเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่ในราคาอสังหาริมทรัพย์ ตามการรวบรวมข้อมูลของ UBS Group ในรายงานประจำปี Real Estate Bubble Index

บลูมเบิร์กซึ่งอ้างข้อมูลของ UBS ระบุว่า กรุงปารีสของฝรั่งเศสและนครเเฟรงค์เฟิร์ตในเยอรมนี มีความเสี่ยงด้านราคาอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ปีนี้เป็นปีเเรกในรอบสี่ปีที่ ราคาอสังหาริมทรัพย์ในกรุงลอนดอนของอังกฤษไม่อยู่ในระดับ "แพงเกินไปอย่างอันตราย" เนื่องจากความกังวลเรื่องเบร็กซ์ซิตและภาษีที่ดินที่สูงกดดันราคาอสังหาริมทรัพย์อยู่

และความเสี่ยงต่อภาวะฟองสบู่ก็ลดลงเช่นกันสำหรับราคาที่อยู่อาศัยในฮ่องกง

ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่งคือ รายงานนี้ไม่พบว่าเมืองใดในสหรัฐฯ มีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นของราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ร้อนแรง ถือเป็นครั้งแรกในรอบแปดปี

ในขณะที่การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและประเด็นเรื่องความเหมาะสมของราคาบ้าน ทำให้อสังหาฯในนิวยอร์คราคาเพิ่มขึ้นช้ากว่าค่าเฉลี่ยของอเมริกาทั่วประเทศ

บลูมเบิร์กรายงานด้วยว่าราคาที่อยู่อาศัยในซานฟรานซิสโก และลอสเองเจลิสได้รับผลกระทบจากความต้องการที่ลดลงจากต่างชาติ ปัจจัยลบจากสงครามการค้าและความกังวลเรื่องราคาที่เคยสูงเกินรายได้ประชาชน

ส่วนที่นครบอสตันของสหรัฐฯ รายงานระบุว่าราคาบ้านอยู่ในระดับเหมาะสมขณะนี้