ผู้นำโลกร่วมโทรศัพท์ยินดี "เอ็มมานูเอล มาคร็อง" ว่าที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศสคนใหม่

French President-elect Emmanuel Macron gestures during a victory celebration outside the Louvre museum in Paris, May 7, 2017.

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ โทรศัพท์แสดงความยินดีต่อนายเอ็มมานูเอล มาคร็อง ว่าที่ประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งเมื่อวันอาทิตย์ เหนือคู่แข่ง คือ มารีน เลอ เป็ง

โฆษกทำเนียบขาว ฌอน สไปเซอร์ กล่าวว่า "ปธน.ทรัมป์ ได้โทรศัพท์ถึงนายมาคร็องในวันจันทร์เพื่อแสดงความยินดี และบอกว่าพร้อมจะทำ
งานร่วมกับผู้นำคนใหม่ของฝรั่งเศส"

อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี่ คลินตั้น ผู้นำด้านสิทธิมนุษยชน เจสซี่ แจ็คสัน และนายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก บิล เดอ บลาซิโอ
คือส่วนหนึ่งของกลุ่มผู้นำทางการเมืองสหรัฐฯ ที่ร่วมแสดงความยินดีต่อนายมาคร็องและประชาชนฝรั่งเศส

Outgoing French President Francois Hollande (R) reaches out to touch President-elect Emmanuel Macron, as they attend a ceremony to mark the end of World War II at the Tomb of the Unknown Soldier at the Arc de Triomphe in Paris, May 8, 2017.

และในวันจันทร์ เว็บไซต์ของรัฐบาลรัสเซียได้เผยแพร่คำกล่าวแสดงความยินดีของประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน โดยกล่าวว่า

"นายมาคร็องสามารถเอาชนะใจประชาชนฝรั่งเศสให้เป็นผู้นำประเทศในช่วงที่ยุโรปกำลังเกิดวิกฤติในหลายด้าน เช่น ภัยคุกคามจากการก่อการร้าย และความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ ในสหภาพยุโรป"

ชัยชนะครั้งนี้ทำให้นักการเมืองวัย 39 ปีชาวฝรั่งเศส กลายเป็นประธานาธิบดีฝรั่งเศสที่อายุน้อยที่สุด และนำความโล่งอกมาให้กับพันธมิตรของฝรั่งเศสในยุโรป โดยเฉพาะอย่างยิ่งเยอรมนี หัวเรือใหญ่ของกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร

โดยหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งของเยอรมนีพาดหัวว่า "ชัยชนะของมาคร็อง ชัยชนะของยุโรป"

Supporters of French President Elect Emmanuel Macron celebrate near the Louvre museum after early results were announced in the second round vote in the 2017 presidential elections in Paris, France, May 7, 2017.

ทางด้านนายกฯ ญี่ปุ่น ชินโซ่ อาเบะ กล่าวว่า "ชัยชนะของนายมาคร็อง ถือเป็นการแสดงความมั่นใจของชาวฝรั่งเศส ที่มีต่อสหภาพยุโรป"

ส่วนประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง มีคำแถลงว่า "จีนยินดีผลักดันความร่วมมือกับฝรั่งเศสให้ขึ้นสู่ระดับที่สูงขึ้นกว่าเดิม"

นายมาคร็องจะเริ่มรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์นี้ และเริ่มทำงานทันที

โดยก่อนหน้านี้เขากล่าวไว้ว่า หากเขาชนะเลือกตั้ง คงไม่มีช่วงเวลาฮันนีมูนทางการเมืองมากนัก เพราะมีอีกหลายเรื่องที่ต้องเร่งจัดการ โดย
เฉพาะความท้าทาย 3 ประการที่ฝรั่งเศสกำลังเผชิญ

หนึ่งคือการเจรจาเรื่องการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป สองคือวิกฤติการณ์หนี้ของกรีซที่กำลังคุกคามค่าเงินยูโร

และสามคือการขยายตัวของกระแสต่อต้านสหภาพยุโรปในอิตาลี ที่เรียกว่า Five-Star Movement ขณะที่กำลังจะมีการเลือกตั้งใหญ่ในอิตาลีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า