ป่าอเมซอน! ที่มาของเรื่องราวหลากหลาย พร้อมอันตรายรอบตัวนักข่าว

  • VOA

สภาพป่าอเมซอนที่ถูกทำลายหนัก

ป่าอเมซอนซึ่งเป็นป่าฝนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขึ้นชื่อในด้านความหลากหลายทางชีวภาพที่อุดมสมบูรณ์ แต่การทำเหมืองแร่ การประมง และการตัดไม้อย่างผิดกฎหมาย ล้วนเป็นภัยคุกคามต่ออนาคตของป่าแห่งนี้

นักข่าวจากทั่วโลกเดินทางไปยังบราซิลเพื่อรายงานว่า กิจกรรมดังกล่าวส่งผลต่อป่าฝนและชุมชนในบริเวณนั้นอย่างไรบ้าง แต่ อาร์เธอ โรเมอู จากองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน หรือ RSF กล่าวว่า การรายงานข่าวจากภูมิภาคนี้ถือเป็นความท้าทายที่ไม่เหมือนใคร

อาร์เธอ โรเมอู จากองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน

โรเมอู กล่าวด้วยว่า “การทำข่าวในเขตป่าอเมซอนมีค่าใช้จ่ายสูงและมีความซับซ้อนในกระบวนการด้านการขนส่ง ดังนั้น การทำข่าวจึงมีต้นทุนที่แพงและเป็นการยากที่จะเข้าใจถึงพลวัตเล็ก ๆ น้อย ๆ ของความขัดแย้งที่กำลังเกิดขึ้นในดินแดนต่าง ๆ”

โรเมอู อธิบายว่า ความขัดแย้งนั้นมีตั้งแต่ปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ส่งผลกระทบต่อชุมชนท้องถิ่นไปจนถึงที่เป็นปัญหาในระดับชาติ อย่างเช่น ประเด็นทางสังคมและสิ่งแวดล้อม ปัญหาความขัดแย้งด้านเกษตรกรรม ปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชน ตลอดจนปัญหาที่เกี่ยวข้องกับคดีคอร์รัปชันในระดับท้องถิ่่นที่ครอบคลุมไปทั่วประเทศ เป็นต้น

กุญแจสำคัญในการแก้ปัญหานี้ คือ การให้ความเข้าใจในเรื่องปัญหาซับซ้อนทางการเมืองและเศรษฐกิจและปัจจัยที่ทำให้เกิดความตึงเครียด และหากไม่สามารถตระหนักถึงเรื่องเหล่านี้ ผู้สื่อข่าวก็จะมีความเสี่ยงที่จะถูกคุกคาม ถูกล่วงละเมิด ตลอดจนถูกดำเนินคดีความโดยไม่สามารถต่อสู้ได้

ทั้งนี้ ในช่วงระหว่างเดือนมิถุนายน 2022 จนถึงเดือนมิถุนายนของปีนี้ RSF ได้บันทึกการละเมิดเสรีภาพสื่อ 66 ครั้งในรัฐต่าง ๆ ที่อยู่ในลุ่มน้ำอเมซอนของบราซิล

ชนพื้นเมืองในเขตอเมซอน ของบราซิล ออกมาชุมนุมประท้วง

แต่การสังหารผุ้สื่อข่าวดอม ฟิลลิปส์ และผู้เชี่ยวชาญด้านชนเผ่าพื้นเมือง บรูโน เปเรรา ในปี 2022 ทำให้เรื่องราวของบรรดาผู้สื่อข่าวที่ต้องเผชิญกับอันตรายกลายเป็นที่สนใจของคนทั้งโลก

ทั้งนี้ ผลกระทบของคดีนี้เป็นประเด็นหลักของสารคดีเรื่อง “Reports of a War Correspondent in the Amazon” ที่กำกับโดยผู้สื่อข่าว อานา อรันฮา

อานา อรันฮา ผู้สื่อข่าวชาวบราซิล

อรันฮากล่าวว่า เธอได้เดินทางเข้าไปในป่าอเมซอนพร้อมกับทีมงานสารคดี เพื่อถ่ายทำช่วงเวลาแห่งความสะเทือนใจและการที่ได้ตระหนักว่า ผู้สื่อข่าวนั้นก็ตกเป็นเป้านิ่งและต้องเสี่ยงชีวิตมากเพียงใด

ตัวอรันฮาเองซึ่งเป็นผู้ประสานงานโครงการแห่งองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Repórter Brasil ได้ทำหน้าที่ดูแลพื้นที่ป่าอเมซอนมานานกว่า 14 ปีแล้ว และเธอทราบดีถึงความซับซ้อนและความเสี่ยงในการทำงานในพื้นที่นี้

อรันฮากล่าวต่อไปว่า ในการทำงานในพื้นที่นี้ “ทางองค์กรเริ่มมีการเพิ่มกฎระเบียบด้านการรักษาความปลอดภัย และเริ่มหลีกเลี่ยงการกระทำใด ๆ ที่เคยทำมาก่อนหน้านี้ เช่น การพูดคุยกับผู้คนในขณะที่ปฏิบัติงานอยู่”

ภาพผู้สื่อข่าวที่ออกสำรวจพื้นที่ป่าอเมซอน

ส่วนโรเมอู จาก RSF กล่าวต่อว่า “การทำข่าวในอเมซอนทุกวันนี้ เป็นการฝึกความอดทนและความยืดหยุ่น ซึ่งเป็นรากฐานสำหรับอนาคต ไม่เพียงแต่สำหรับสังคมและประชาธิปไตยของบราซิลเท่านั้น แต่ยังเป็นรากฐานสำหรับอนาคตของโลกอีกด้วย”

เขากล่าวทิ้งท้ายว่า ตราบใดที่นักวิทยาศาสตร์ยังคงส่งเสียงเตือนเกี่ยวกับการทำลายระบบนิเวศของป่าอเมซอน งานของผู้สื่อข่าวด้านสิ่งแวดล้อมก็จะยังคงมีความสำคัญอยู่ต่อไป

  • ที่มา: วีโอเอ