ยุโรปหาวิธีรับมือกับปัญหาความนิยมใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า

เวลานี้ยุโรปกำลังหาวิธีที่รับมือกับกระแสนิยมการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า ที่ส่งผลกระทบต่อเมืองต่างๆ ทั่วโลก

บรรดาผู้สนับสนุน การใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า กล่าวว่า สกูตเตอร์คือพาหนะแห่งอนาคต และเป็นวิธีที่ทำให้การเดินทางสนุกสนานโดยปราศจากการสร้างมลภาวะ

แต่นักวิจารณ์ตั้งข้อสังเกตว่าการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมากขึ้น

ปัจจุบันประเทศต่างๆ ในยุโรป มีวิธีรับมือกับการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าในรูปแบบที่แตกต่างกัน โดยในหลายเมืองของยุโรป การขับขี่สกูตเตอร์จะอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันกับการปั่นรถจักรยาน และผู้ขับขี่สกูตเตอร์ที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะจะต้องมีไฟและใส่หมวกกันน็อกด้วย

ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส มีบริษัทผลิตสกูตเตอร์ไฟฟ้าหลายแห่ง และคาดว่ามีสกูตเตอร์อยู่บนท้องถนนอย่างน้อย 20,000 คัน

รัฐบาลฝรั่งเศสกำลังเตรียมร่างกฎหมายใหม่สำหรับควบคุมการใช้สกูตเตอร์ คาดว่ากฏหมายตังกล่าวจะถูกนำมาบังคับใช้ในเดือนกันยายน โดยจะมีการจำกัดความเร็วไว้ที่ประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในพื้นที่ส่วนใหญ่ และ 8 กิโลเมตรต่อชั่วโมงในบริเวณที่มีคนเดินเท้าจำนวนมาก

และสำหรับผู้ขับขี่สกูตเตอร์ไฟฟ้าที่วิ่งเร็วเกินกำหนด อาจต้องจ่ายค่าปรับสูงถึง 1,680 ดอลลาร์ หรือราว 50,000 บาท

ส่วนที่เบอร์ลิน เมืองหลวงของเยอรมนี เริ่มมีสกูตเตอร์ไฟฟ้าใช้อย่างถูกกฏหมายเมื่อสองเดือนที่ผ่านมา รัฐบาลเยอรมนีตระหนักรู้อย่างรวดเร็วว่าจำเป็นต้องมีกฎระเบียบใหม่สำหรับการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า และเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเจ้าหน้าที่เบอร์ลินได้ประกาศแผนเกี่ยวกับที่จอดสกูตเตอร์ ซึ่งบรรดาผู้ใช้มักจะจอดเอาไว้ตามทางเดิน

และที่สโลวีเนีย กำลังมีการร่างกฏหมายที่จะจำกัดการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้าบนทางเดินเท้าและทางสำหรับปั่นรถจักรยานเท่านั้น โดยจะจำกัดความเร็วอยู่ที่ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่สำหรับบนทางเดินเท้าความเร็วของสกูตเตอร์จะต้องเท่ากับคนที่กำลังเดินอยู่

ยุโรปไม่ได้เป็นเพียงแห่งเดียวที่ต้องหาทางรับมือกับการใช้สกูตเตอร์ไฟฟ้า เพราะในสหรัฐก็มีการถกเถียงในเรื่องนี้กันมากขึ้น และอนาคตของกฏหมายควบคุมการใช้สกูตเตอร์ ยังคงเป็นคำถามที่ยังไม่มีคำตอบ