หญิงอียิปต์นิยมสวมผ้าคลุมผมมากขึ้นและมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประชาธิปไตยในประเทศ

  • Al Pessin
    ทักษิณา ข่ายแก้ว

หญิงอียิปต์นิยมสวมผ้าคลุมผมมากขึ้นและมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างประชาธิปไตยในประเทศ

อียิปต์กำลังจะร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผู้เกี่ยวข้องหลายคนอยากให้รัฐธรรมนูญฉบับใหม่เอื้อต่อสิทธิสตรีมากขึ้น ความพยายามส่งเสริมสิทธิสตรีในอียิปต์เกิดขึ้นสวนกระแสกับค่านิยมดั้งเดิมที่ยึดถือมานานหลายสิบปี อาทิ การสวมผ้าคลุมผม ชาวอียีปต์หลายคนมองว่าความนิยมสวมผ้าคลุมผมในอียิปต์ไม่เป็นอุปสรรคต่อการผลักดันด้านสิทธิสตรี

หญิงมุสลิมชาวอียิปต์ทั่วไป นิยมสวมผ้าคลุมผมไม่ว่าจะมีสถานภาพทางสังคมและเศรษฐกิจอย่างไร ผ้าคลุมที่ใช้กันมีหลายแบบตั้งแต่ปิดเฉพาะผมกับลำคอ ไปจนถึงแบบที่ปิดใบหน้าเห็นแค่ดวงตา หลายสิบปีที่ผ่านมา หญิงอียิปต์ทุกวัยนิยมสวมผ้าคลุกันมากขึ้น

แต่เมื่อร้อยปีก่อน หญิงชาวอียิปต์ออกมาเรียกร้องสิทธิสตรี ต่อต้านผ้าคลุมผม ศาสตราจารย์ซาอ้าด เอ็ดดิน อิบราฮิม นักสังคมวิทยาชาวอียิปต์ บอกกับผู้สื่อข่าววอยออฟอเมริกาว่า ผู้หญิงสมัยใหม่ในอียิปต์กลับสวนกระแสไปสวมผ้าคลุมผมกันมากขึ้นอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของอียิปต์

ศาสตราจารย์ซาอ้าด เอ็ดดิน อิบราฮิม เขียนหนังสือเกี่ยวกับการหวนคืนของค่านิยมใช้ผ้าคลุมผมในกลุ่มนักเรียน นักศึกษาและหญิงทำงานชาวอียิปต์ตอนที่เริ่มนิยมกันใหม่ๆเมื่อสามสิบปีที่แล้ว

ศาสตราจารย์อิบราฮิม อธิบายว่า ผู้หญิงอียิปต์ยอมสวมผ้าคลุมผมเพื่อจะได้ออกไปใช้ชีวิตนอกบ้านโดยไม่ถูกครหาว่า ขาดศีลธรรมจรรยาหรือเป็นผู้หญิงความประพฤติไม่ดี ดังนั้นหญิงอียิปต์ทุกวัยจึงเลือกที่จะสวมผ้าคลุมผมเพื่อแลกกับเสรีภาพภายใต้ผ้าคลุม

ผู้สื่อข่าววอยออฟอเมริกาบอกว่า ตัวอย่างแบบนี้ก็มีให้เห็นกันทั่วไปในกรุงไคโร อย่างคุณโนฮา ซาเมียร์ ทนายความหญิง เลือกสวมผ้าคลุมผมมาหลายปีแล้ว และเห็นว่าผ้าคลุมผมแบบฮีจ๊าปสวยดี คลุมแล้วไม่เคอะเขิน แม้ว่าเธอจะยึดถือในหลักคำสอนศาสนาอิสลาม ก็ยังอยากแต่งตัวตามแฟชั่นบ้างตามขอบเขตที่ทำได้

ฮีจ๊าป เป็นคำในภาษาอาราบิกแปลว่าผ้าคลุมผมสำหรับหญิงมุสลิม เป็นผ้าที่คลุมที่ผมและลำคอแต่ไม่คลุมหน้า

ผู้เชี่ยวชาญหลายคนเห็นว่าความเคร่งครัดทางสังคมและศาสนาเป็นอิทธิพลจากซาอุดิอารเบีย ชายชาวอียิปต์หลายล้านคนที่ไปทำงานในซาอุดิอารเบียได้ซึมซับเอาแนวความคิดเกี่ยวกับการปฏิบัติตนของหญิงมุสลิมหลายๆอย่างแล้วนำไปใช้ในครอบครัวตนเองเมื่อกลับบ้านเกิด

แต่คุณอัสสา โสไลมาน จากศูนย์เพื่อผู้หญิงอียิปต์ แย้งว่า ตัวผู้หญิงเองนี่แหละที่มีส่วนทำให้กระแสนิยมผ้าคลุมผมย้อนคืนยุค ประกอบกับเหตุการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในอียิปต์ช่วงหลายสิปปีที่ผ่านมา

คุณโสไลมาน บอกว่า ความแตกต่างระหว่างสิ่งที่คนอียิปต์อยากได้กับสิ่งที่รัฐบาลจัดหาทำให้เกิดช่องว่างขึ้นระหว่างสองฝ่าย ประชาชนมากมายหันเข้าหาศาสนาเพื่อเติมเต็มช่องว่างระหว่างตนกับรัฐบาล หญิงอียิปต์จำนวนมากใช้ผ้าคลุมผมเป็นตัวสื่อความเชื่อทางศาสนาของตน

หญิงอียิปต์ส่วนใหญ่ยังไม่เคร่งมากถึงขนาดสวมผ้าคลุมที่ปิดใบหน้าเปิดเฉพาะดวงตาเหมือนหญิงในชาติมุสลิมบางประเทศ แต่หญิงอียิปต์นิยมผ้าคลุมฮิจ๊าปที่คลุมเฉพาะผมกับลำคอ

ผู้สื่อข่าววีโอเอรายงานว่า ผู้หญิงหลายคนตามสมัยแฟชั่นได้โดยไม่ยอมให้ผ้าคลุมผมเป็นอุปสรรค และการสวมผ้าคลุมผมก็ไม่ใช่อุปสรรคขัดขวางความสำเร็จในหน้าที่การงานหรือบทบาททางการเมือง

คุณราเนีย อัล มาลกี้ บรรณาธิการหนังสือพิมพ์เห็นว่าผ้าคลุมผมไม่ได้มีความหมายแฝงทางสังคมเลยอะไรเลย ในทางตรงกันข้ามผู้หญิงกลับสามารถทำอะไรได้มากขึ้นกว่าเดิมเพราะสวมผ้าคลุมผมนอกจากนี้ยังพบว่าผู้นำเยาวชนที่มีบทบาทรณรงค์ทางการเมืองจนนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในอียิปต์เป็นกลุ่มหญิงสาวที่สวมผ้าคลุมผม

ด้านคุณฮีสแชม กาเส็ม อดีตผู้สื่อข่าวชาวอียิปต์เห็นด้วยว่า เครื่องแต่งกายของผู้หญิงไม่ใช่สาระสำคัญ แต่สิ่งที่สำคัญคือการมีสิทธิเสรีภาพเต็มที่ในสังคม

เธอบอกว่า หลายครั้งผู้หญิงที่ไม่คลุมผมก็ไม่ได้มีบทบาทอะไรทางสังคม แต่ผู้หญิงที่คลุมผมบางคนออกไปประท้วงรัฐบาล จึงเห็นได้ว่าเสื้อผ้าหรือสิ่งที่ผู้หญิงสวมใส่ไม่ใช่สิ่งสลักสำคัญเลย แต่บทบาทที่สวมต่างหากที่สำคัญกว่าเพราะจะนำไปสู่ความเท่าเทียมทางสังคม

แนวคิวนี้ตรงข้ามกับแนวคิดของชาติตะวันตก ที่ฝรั่งเศส ตำรวจจับกุมหญิงคนหนึ่งข้อหาสวมผ้าคลุมผม ฝรั่งเศสถือว่าการสวมผ้าคลุมหน้าผิดกฏหมายเพราะเป็นการละเมิดสิทธิสตรี แต่สำหรับคนอียิปต์แล้ว พวกเขาเชื่อว่า ผ้าคลุมผมควรถือเป็นส่วนหนึ่งของการปลูกสร้างความเป็นประชาธิปไตยในประเทศที่กำลังเรื่มต้นขึ้น