ศาลนครนิวยอร์กมีคำพิพากษาในวันศุกร์ ให้โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดีและมหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์ ต้องจ่ายค่าเสียหายเป็นเงิน 354.9 ล้านดอลลาร์ และไม่สามารถทำธุรกิจในนิวยอร์กเป็นเวลา 3 ปี จากคดีตกแต่งข้อมูลทรัพย์สินเพื่อหลอกลวงผู้ให้กู้ยืมเงิน ตามการรายงานของรอยเตอร์
ผู้พิพากษาอาเธอร์ เอนโกรอน กล่าวว่า ทรัมป์และจำเลยรายอื่น “ไม่สามารถยอมรับความผิดในแบบฉบับของแต่ละคน” และจำเลยยังไม่แสดงถึงความรู้สึกผิดต่อการกระทำอย่างถึงที่สุด แม้หลักฐานจะบ่งชี้ถึงการกระทำผิดก็ตาม
ในประเด็นการห้ามทำธุรกิจ ผู้พิพากษาเอนโกรอน ระบุว่า ทรัมป์ไม่สามารถดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่หรือผู้บริหารในบริษัทใด ๆ ในนิวยอร์กเป็นเวลา 3 ปี
คดีความข้างต้นสืบเนื่องจากการฟ้องร้องโดยเลทิเชีย เจมส์ อัยการรัฐนิวยอร์ก ที่กล่าวหาว่า อดีตปธน.ทรัมป์ บุตรชาย และธุรกิจของครอบครัว จงใจบิดเบือนมูลค่าทรัพย์สินสุทธิในช่วงเวลา 10 ปี หลอกลวงผู้ให้กู้ยืมเงินเพื่อให้ได้เงื่อนไขการกู้ยืมที่ดี
อาลีนา แฮบบา ทนายความของทรัมป์ระบุว่าคำพิพากษาดังกล่าวเป็นเรื่องไม่ยุติธรรม และเป็น “ผลพวงของการล่าแม่มดที่ถูกผลักดันด้วยการเมือง ที่กินเวลาหลายปี” โดยทนายความระบุด้วยว่าจะเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ต่อ
นอกจากคดีนี้ ทรัมป์ยังถูกฟ้องในคดีอาญาอีก 4 คดี รวมถึงคดีที่นิวยอร์กที่เขาถูกกล่าวหาว่าใช้เงินปิดปากดาราหนังผู้ใหญ่ก่อนเข้าสู่การเลือกตั้งปี 2016 นอกจากนั้นยังมีคดีความที่รัฐฟลอริดาเรื่องการดูแลเอกสารชั้นความลับ และคดีที่เกี่ยวข้องกับความพยายามเปลี่ยนผลการเลือกตั้งปี 2020 ที่รัฐจอร์เจียและกรุงวอชิงตัน
- ที่มา: รอยเตอร์