รัฐบาลนานาประเทศเดินหน้าผ่อนคลายมาตรการโควิด-19

Workers of the Calzaturificio M.G.T shoe factory in Castelnuovo Vomano, central Italy, return to work, Monday, May 4, 2020. Italy began stirring again Monday after a two-month coronavirus shutdown, with 4.4 million Italians able to return to work…

สถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในหลายประเทศเริ่มมีพัฒนาการที่ดีขึ้น ทำให้รัฐบาลหลายแห่งเดินหน้าการผ่อนคลายมาตรการควบคุมและป้องกันการระบาดอย่างต่อเนื่อง

แอชลีย์ บลูมฟีลด์ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขนิวซีแลนด์เปิดเผยในวันจันทร์ตามเวลาท้องถิ่นว่า นิวซีแลนด์ไม่พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 เลยในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการระบาดในประเทศเมื่อกลางเดือนมีนาคม และเป็นจุดเปลี่ยนที่สำคัญนับตั้งแต่รัฐบาลผ่อนคลายกฎ Lockdown ยาวนาน 1 เดือน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

อย่างไรก็ตาม บลูมฟีลด์ ยืนยันว่า การไม่พบผู้ติดเชื้อครั้งแรกนี้ยังเป็นแค่สถิติวันเดียว และยังต้องรอดูกันต่อไปในสัปดาห์นี้ว่าจะพบผู้ติดเชื้ออีกหรือไม่ เพราะอาจมีผู้ที่ยังอยู่ในช่วงไม่แสดงอาการเนื่องจากเชื้อไวรัสยังอยู่ในระยะฟักตัว ซึ่งปกติจะใช้เวลา 5-6 วัน

เท่าที่ผ่านมา นิวซีแลนด์พบผู้ติดเชื้อราว 1,500 คนและมีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 คน และแม้จะมีการผ่อนคลายมาตรการบางอย่างแล้ว รัฐบาลยังคงคำสั่งให้โรงเรียน และร้านค้ารวมทั้งร้านอาหารส่วนใหญ่ปิดทำการต่อไปอีกระยะ

ส่วนที่อิตาลี รัฐบาลเริ่มผ่อนคลายกฎเกณฑ์ต่างๆ ทำให้ผู้คนกว่า 4 ล้านคนสามารถกลับไปทำงานได้อีกครั้ง ซึ่งรวมถึง พนักงานโรงงานและผู้ประกอบอาชีพก่อสร้าง รวมทั้งผู้ที่ทำงานในภัตตาคารและร้านอาหารซึ่งได้รับอนุญาตให้เปิดทำการเฉพาะบริการซื้อกลับบ้านเท่านั้น ขณะที่ประชาชนสามารถออกมามาข้างนอกเพื่อไปเยี่ยมญาติพี่น้อง หลังต้องกักตัวอยู่แต่ในบ้านภายใต้คำสั่ง Lockdown ที่ได้ชื่อว่ายาวนานที่สุดในยุโรป

ในวันจันทร์นี้เอง ทางการอิตาลีรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ 195 ราย ซึ่งถือว่าลดลงอย่างมากจากค่าเฉลี่ยรายวันที่กว่า 900 รายในช่วงปลายเดือนมีนาคม ขณะที่ตัวเลขรวมอยู่ที่ราว 29,000 ราย และมีผู้ติดเชื้อทั้งหมดกว่า 210,000 ราย

และที่สเปน ประชาชนสามารถออกมาสัญจรไปมาได้ตามปกติแล้วในวันจันทร์ซึ่งเป็นวันแรกของการผ่อนคลายมาตรการโควิด-19 แต่ต้องใส่หน้ากากตลอดเวลา และรัฐบาลได้เตรียมหน้ากากเอาไว้ 6 ล้านชิ้นเพื่อแจกจ่ายตามสถานีขนส่งสาธารณะต่างๆ ในกรุงแมดริด นครบาร์เซโลนา เมืองมายอร์กา เมืองวาเลนเซีย และเมืองอื่นๆ อีกหลายแห่ง

ข้อมูลล่าสุด ณ เที่ยงวันจันทร์ จากมหาวิทยาลัย จอห์น ฮอพกินส์ ระบุว่า สเปนมีผู้ติดเชื้อแล้วทั้งหมดกว่า 217,000 คนและมีผู้เสียชีวิตไปแล้วกว่า 25,000 คน

และที่มาเลเซีย รัฐบาลอนุญาตให้ภาคธุรกิจเปิดทำการอีกครั้งเช่นกัน หลังนายกรัฐมนตรี มูห์ยิดดิน ยัสซิน ตกลงผ่อนคลายมาตรการ Lockdown ที่เดิมมีกำหนดบังคับใช้ถึงวันที่ 12 พฤษภาคม

ขณะเดียวกัน รัฐบาลเลบานอนยอมให้ภัตตาคารและร้านอาหารต่างๆ เปิดทำการได้แล้ว ภายใต้เงื่อนไขให้เปิดทำงานเพียง 30 เปอร์เซ็นต์จากช่วงปกติเท่านั้น ส่วนรัฐบาลแอฟริกาใต้อนุญาตให้รถไฟ รถโดยสารประจำทาง และแท็กซี่ กลับมาให้บริการได้แบบไม่เต็มรูปแบบเช่นกัน

แต่ที่ญี่ปุ่น นายรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ ประกาศในวันจันทร์ สั่งยืดเวลาคำสั่งภาวะฉุกเฉินสำหรับกรุงโตเกียว และพื้นที่ใน 6 จังหวัดทั่วประเทศออกไปจนถึงสิ้นเดือนพฤษภาคม จากเดิมที่มีกำหนดสิ้นสุดในวันพุธที่จะถึงนี้ แม้ตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่จะมีแนวโน้มลดลงบ้าง

แต่แม้หลายประเทศจะเริ่มผ่อนคลายมาตรการต่างๆ ไปแล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกยังคงส่งเสียงเตือนออกมาว่า การเร่งเปิดประเทศนั้นมีความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ระลอกใหม่ได้

ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก เทดรอส เกเบรเยซุส กล่าวในวันจันทร์ว่า คนทั่วโลกควรเร่งร่วมมือกันต่อสู้กับโควิด-19 ต่อไป เพราะไวรัสนี้จะยังคงอยู่ไปอีกนาน ขณะที่ทางองค์การฯ ยังเดินหน้าร่วมมือกับนักวิจัยทั่วโลกในการพัฒนาวัคซีนซึ่งปัจจุบันมีการคิดค้นขึ้นมาแล้วราว 90 สูตร ซึ่งต้องได้รับการทดสอบด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพให้แน่นอนก่อนมีการใช้งานจริง ซึ่งคาดว่าน่าจะใช้เวลา 12 ถึง 18 เดือนกว่าจะถึงจุดนั้น