เจลล้างมือในสหรัฐฯ หมดตลาดจากปัญหาขาดแคลนส่วนประกอบ

ประชาชนในสหรัฐฯ ยังคงประสบปัญหาซื้อเจลล้างมือ และผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดเฉพาะบุคคลอื่นๆ ไม่ได้ ขณะที่ผู้ค้าทั้งหลายยอมรับว่า ไม่สามารถยืนยันว่าผู้ผลิตจะส่งสินค้าได้เมื่อไหร่

ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจะคอยย้ำว่า การล้างมือด้วยสบู่และน้ำ รวมทั้งการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดในครัวเรือน คือวิธีทำความสะอาดที่ได้ผลดีที่สุด ในการป้องกันการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงต้องการผลิตภัณฑ์จำพวกเจลและกระดาษทิชชู่ฆ่าเชื้อโรคที่พกติดตัวออกนอกบ้านได้อยู่ดี แม้ในเวลาที่รัฐบาลจะสั่งจำกัดการออกมาภายนอกเคหะสถานก็ตาม

สำนักข่าว วีโอเอ ติดต่อไปยังตัวแทนค้าปลีกผลิตภัณฑ์ดูแลสุขอนามัยส่วนบุคคลชั้นนำแห่งหนึ่งในสหรัฐฯ เพื่อสอบถามเรื่องสถานการณ์ขาดแคลนเจลล้างมือ และได้รับคำตอบว่า ผู้ผลิตไม่ได้เตรียมรับวิกฤติที่เกิดขึ้นทั่วโลกในเวลานี้มาก่อน ทั้งยังไม่เคยมีการให้ความสำคัญว่าผลิตภัณฑ์เจลฆ่าเชื้อโรคเป็นสิ่งจำเป็นจนกระทั่งช่วงเดือนกว่าๆ ที่ผ่านมา

ด้วยเหตุนี้ ผู้ผลิตจึงประสบปัญหาขาดแคลนส่วนประกอบเช่น แอลกอฮอล์ และ ขวดพลาสติก โดยโรงงานส่วนใหญ่มักไม่กักเก็บแอลกอฮอล์ไว้เป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นสารอันตรายและหมดอายุได้ง่าย

ยิ่งไปกว่านั้น ความต้องการผลิตภัณฑ์จำพวกนี้ที่สูงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้ราคาส่วนประกอบหลักๆ ทั้งหลายพุ่งขึ้นราว 200% ไปเรียบร้อยแล้ว

ทั้งหมดนี้ ทำให้ตารางการผลิตที่ปกติใช้เวลา 2-3 สัปดาห์ กลายมาเป็น 6-8 สัปดาห์หรือมากกว่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

สถานการณ์การขาดแคลนส่วนประกอบครั้งนี้ ทำให้องค์การอาหารและยาของสหรัฐฯ ประกาศผ่อนคลายกฎเกณฑ์การอนุญาตใช้เอธานอลมาผลิตเจลล้างมือไปแล้ว ซึ่งหวังว่าจะช่วยผู้ผลิตและผู้บริโภคได้

ทั้งนี้ มาตรการใหม่ของ อ.ย. ถือว่า ยังเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดและผู้ผลิตเอธานอลที่มีปัญหาราคาตกต่ำนับตั้งแต่เกิดวิกฤติโควิด-19 จนตัดสินใจลดการผลิต และส่งผลกระทบต่อบริษัทยาที่ผลิตเจลฆ่าเชื้อไปด้วย