มีสัญญาณบ่งบอกผู้นำรัฐบาลกับฝ่ายค้านในกัมพูชาอาจพบหารือเรื่องการปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้ง

Cambodia Politics

มีสัญญาณบ่งบอกว่า ภาวะชะงักงันทางการเมืองในกัมพูชาหลังการเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกรกฎาคม ศกก่อนอาจคลี่คลายลงได้ เมื่อรองนายกรัฐมนตรี Sar Kheng ออกมากล่าวว่า กำลังหารือเรื่องการพบกันระหว่างผู้นำพรรคฝ่ายค้านกับพรรครัฐบาล

ภาวะชะงักงันทางการเมืองในกัมพูชา เริ่มต้นขึ้นเมื่อผลการเลือกตั้งครั้งนั้นแสดงให้เห็นว่า พรรคฝ่ายค้าน (Cambodia National Rescue Party หรือ CNRP) ได้ 55 ที่นั่งจาก 123 ที่นั่งในรัฐสภา และปฏิเสธที่จะให้สมาชิกของตนที่ชนะการเลือกตั้งเข้านั่งในสภาฯ โดยกล่าวหาว่าพรรครัฐบาลโกงการเลือกตั้ง

พรรคฝ่ายค้านตั้งเงื่อนไขไว้ว่า จะต้องมีการสืบสวนอย่างเป็นอิสระตามข้อกล่าวหา หรือไม่ก็ต้องจัดการเลือกตั้งกันใหม่ เงื่อนไขสำคัญอีกข้อหนึ่ง คือการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการการเลือกตั้ง ซึ่งพรรครัฐบาลเป็นผู้แต่งตั้งขึ้นมา

ฝ่ายค้านต้องการให้การแต่งตั้งคณะกรรมการชุดนี้ได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาด้วยคะแนนเสียงสองในสาม ซึ่งเท่ากับให้อำนาจยับยั้งการแต่งตั้งผู้ที่สภาฯ ไม่เห็นด้วย

และเพื่อเพิ่มความกดดันให้มีการเปลี่ยนแปลง CNRP ประกาศว่า จะดำเนินการประท้วงรัฐบาลทั่วประเทศเป็นประจำทุกวัน เริ่มต้นตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ไปจนถึงการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น ที่จะมีขึ้นในวันที่ 18 พฤษภาคมนี้

นาย Son Chhay หัวหน้าคณะเจรจาของ CNRP บอกว่าอยากจะหาทางเจรจาทำความตกลงกันให้ได้มากกว่าดำเนินการประท้วง และว่าถ้าทำความตกลงกันไม่ได้ก่อนเดือนพฤษภาคม ทางเลือกต่อจากนั้น คือร่วมมือกับประชาชนดำเนินการประท้วง เรียกร้องให้รัฐบาลหันมาแก้ปัญหาให้ได้

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รองนายกรัฐมนตรี นาย Sar Kheng ออกมากล่าวว่า กำลังพิจารณาว่าจะให้มีการพบหารือกันระหว่างผู้นำของทั้งสองพรรค ครั้งสุดท้ายที่นายกรัฐมนตรี Hun Sen พบหารือกับนาย Sam Rainsy ผู้นำของ CNRP คือเดือนกันยายน ศกก่อน โดยทำความตกลงกันได้ลอยๆ ในเรื่องการปฏิรูปการเลือกตั้ง

นับแต่นั้นมา พรรครัฐบาลกัมพูชาได้บอกปัดคำเรียกร้องสำคัญๆของฝ่ายค้าน และหลังความล้มเหลวในการเจรจาระหว่างกันครั้งล่าสุด หัวหน้าคณะเจรจาของพรรครัฐบาลกล่าวว่า จะดำเนินการปฏิรูปคณะกรรมการการเลือกตั้งเอง

นาย Ou Virak นักต่อสู้เคลื่อนไหวในเรื่องสิทธิมนุษยชนและนักวิจารณ์การเมืองในกัมพูชา ให้ความเห็นว่ารัฐบาลมองเห็นบทเรียนจาก Arab Spring และตระหนักดีว่าจะต้องมีความชอบธรรม รวมทั้งทำให้ประชาชนมีความเชื่อถือในกระบวนการเลือกตั้งด้วย

นักวิจารณ์การเมืองผู้นี้ให้ความเห็นไว้ด้วยว่า พรรคฝ่ายค้านจะต้องระบุเป้าหมายของการปฏิรูปการเลือกตั้งให้ชัดเจน รวมทั้งผลักดันให้รัฐบาลผ่อนคลายการควบคุมสื่อทั้งวิทยุและโทรทัศน์ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับฝ่ายค้านในการเลือกตั้งครั้งต่อไป

ในขณะเดียวกัน พรรคฝ่ายค้านจะต้องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นด้วยว่า ตนเป็นทางเลือกที่เชื่อถือได้ด้วย