จีนยืนหยัดคัดค้านรายงานเรื่องค่ายกักกันชาวอุยกูร์

  • VOA

FILE - A person stands in a tower on the perimeter of the No. 3 Detention Center in Dabancheng in western China's Xinjiang Uyghur Autonomous Region on April 23, 2021. Human rights groups and Western nations have accused China of massive crimes against the

รัฐบาลปักกิ่งกล่าวหารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ฐานเผยแพร่ “คำโกหกอย่างร้ายแรง” เกี่ยวกับเขตปกครองตนเองซินเจียง ระหว่างการขึ้นกล่าวในการประชุมสุดยอด International Religious Freedom พร้อมยืนหยัดคัดค้านรายงานเรื่องค่ายกักกันชาวอุยกูร์

รัฐมนตรีต่างประเทศบลิงเคน กล่าวในวันอังคารที่ผ่านมาว่า “เมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ผมได้ระบุชื่อสิบกว่าประเทศในฐานะ “ประเทศที่ถูกจับตาเป็นพิเศษ” เนื่องจากการละเมิดเสรีภาพด้านศาสนาอย่างร้ายแรง ตั้งแต่ทางการรัสเซีย ไปจนถึงการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมอุยกูร์อย่างต่อเนื่องของสาธารณรัฐประชาชนจีน”

โฆษกระทรวงการต่างประเทศของจีน เหมา หนิง กล่าวที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า คำกล่าวของรัฐมนตรีบลิงเคนขัดแย้งกับความเป็นจริงพื้นฐานและมีอคติเชิงอุดมการณ์ที่ฝังรากลึก “การกล่าวหาว่าจีนเป็น “ผู้ทำให้เกิดก่อการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์” ไม่มีอะไรไปมากกว่าคำโกหกอย่างร้ายแรงที่เผยแพร่โดยฝั่งสหรัฐฯ” และว่า “เขตปกครองซินเจียงมีเสถียรภาพด้านสังคม การพัฒนาทางเศรษฐกิจ มีความเป็นปึกแผ่นด้านชาติพันธุ์ มีความสามัคคีปรองดองด้านศาสนา และมีมาตรฐานการดำรงชีพที่สูงขึ้น”

ในทางตรงกันข้ามกับ “ความกลมเกลียวปรองดอง” ที่รัฐบาลปักกิ่งกล่าวถึงในซินเจียง ชาวอุยกูร์ที่อาศัยในต่างประเทศบางส่วน ไม่สามารถติดต่อสมาชิกครอบครัวในซินเจียงมาเป็นเวลาหลายปีแล้ว โดยต่างกล่าวว่าทางการจีนควบคุมตัวสมาชิกครอบครัวของพวกเขาไว้

คิวเซอร์ เวย์อิต วิศวกรเครื่องกลชาวอุยกูร์ ที่อาศัยอยู่ในอเมริกามาตั้งแต่ปี 2013 เปิดเผยกับวีโอเอว่าเขาได้โพสต์วิดีโอเพื่อขอให้รัฐบาลจีนอนุญาตให้เขาติดต่อกับครอบครัวเมื่อปี 2019 และเมื่อปีก่อนมีบุคคลที่เผยตัวว่าเป็นเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของจีนผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์วีแชท และให้เขาติดต่อกับพ่อแม่ของเขาได้ผ่านช่องทางดังกล่าว แต่เป็นการสื่อสารที่ไม่ได้เป็นไปอย่างเสรีนัก

เวย์อิต รับรู้ได้ถึงสถานะความปลอดภัยของครอบครัวของเขา หลังจากน้องสาววัย 19 ปี ที่กำลังเรียนมหาวิทยาลัยในมณฑลเหอหนาน ตอนกลางของจีน ตัดสินใจลบรายชื่อเขาออกจากช่องทางการติดต่อผ่านวีแชทส่วนตัวของเธอ

ก่อนที่วันที่ 12 ธันวาคมที่ผ่านมา น้องสาวเขาหยุดโพสต์บนวีแชทไป และได้รับการยืนยันจากเพื่อนฝูงและสถานีตำรวจในละแวกที่ครอบครัวเขาอาศัยอยู่ ก่อนจะพบว่าน้องสาวถูกจับกุมฐานแชร์วิดีโอการประท้วงในจีนในบัญชีวีแชทของเธอ และลูกพี่ลูกน้องวัย 23 ปีของเขาอีกคนถูกจับกุมเมื่อปีก่อนระหว่างเดินทางจากนครเซี่ยงไฮ้ไปยังอูรุมชี และต้องโทษจำคุก 5- 7 ปีฐานใช้สื่อสังคมออนไลน์ตะวันตก

อีกด้านหนึ่ง มูนาวาร์ ซาดิร์ ชาวอุยกูร์ในสวีเดน เปิดเผยว่าน้องชายถูกควบคุมตัวโดยตำรวจจีนเมื่อปีก่อนเช่นกัน และเกิดเหตุการณ์ลักษณะเดียวกันกับน้องสาวของเวย์อิต ตั้งแต่การห้ามติดต่อ การลบรายชื่อการติดต่อ ไปจนถึงการหยุดโพสต์ในสื่อสังคมออนไลน์ในวันที่ถูกจับด้วย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บางประเทศรวมทั้งสหรัฐฯ กล่าวหาจีนว่ากระทำการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ทั้งการกักขังชาวอุยกูร์และกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยที่นับถือศาสนาอิสลามกว่า 1 ล้านคนไปค่ายกักกัน ที่มีการบังคับใช้แรงงาน บังคับทำหมัน และบังคับหญิงอุยกูร์แต่งงานกับชายชาวจีน แต่ทางการจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และยืนยันว่าเขตปกครองซินเจียงปลอดภัยปลอดภัยและมีเสถียรภาพและมีการพัฒนาไปในทางที่ดี

  • ที่มา: วีโอเอ