ผลการศึกษาวิจัยครั้งใหม่ เกี่ยวกับเรื่องโรคมะเร็งที่ตับอ่อน  

การวินิจฉัยว่าใครเป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อนนั้นทำได้ยาก เมื่อตรวจพบว่าใครเป็นโรคนี้ ส่วนมากจะสายเกินไป และเกือบถึงขั้นจะเสียชีวิตอยู่รอมร่อ

แต่ผลของการวิจัยครั้งใหม่แสดงว่าคนเราอาจป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อนได้ถ้าสามารถควบคุมน้ำหนักของตนเองได้

คนที่เป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อนส่วนมากมักเสียชีวิตภายในเวลาหนึ่งปี นับตั้งแต่แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคนั้น

นายแพทย์ โมฮำเหม็ด คาลาน ผู้สอนวิชาศัลยกรรมอยู่ที่คณะแพทยศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย จอร์จ วอชิงตัน ณ กรุงวอชิงตันกล่าวไว้ตอนนี้ว่า "โชคไม่อำนวย เราไม่มีวิธีตรวจโลหิตที่เชื่อถือได้สำหรับใช้ตรวจเป็นประจำเพื่อชิงตัดหน้าก่อนที่โรคมะเร็งที่ตับอ่อนจะคุกคาม หรือไม่ก็ตรวจวินิจฉัยให้พบเสียแต่ตอนที่เริ่มเป็น"

นายแพทย์ โมฮำเหม็ด คาลานกล่าวว่า การตรวจวินิจฉัยโรคดังกล่าวทำได้ยากเพราะตับอ่อนอยู่ลึกและกระเพาะอาหารของคนจะบังตับอ่อนส่วนหนึ่งไว้ อีกทั้งเนื้อร้ายที่ตับอ่อนลามออกไปมากแล้วก่อนที่ผู้ป่วยจะแสดงอาการของโรคออกมา

การผ่าตัดเป็นวิธีเดียว ที่จะรักษาโรคมะเร็งที่ตับอ่อนระยะต้นให้หายได้ แต่ถ้าโรคนี้ลุกลามมากแล้ว ซึ่งมักจะเป็นขั้นที่ตรวจพบนั้น จะไม่มีวิธีรักษาให้หายได้

แต่ศาสตราจารย์ ดอง-ฮี ลีนักวิจัยที่ศูนย์โรคมะเร็ง เอ็มดี แอนเดอร์สันแห่งมหาวิทยาลัยเท็กซัสกล่าวไว้ตอนนี้ว่า "มีหลักฐานมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ส่อว่าการมีน้ำหนักตัวเกินพิกัดและการเป็นโรคอ้วนนั้นทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อน"

ศาสตราจารย์ดอง-ฮี ลีนำข้อมูลข่าวสารจากผู้ป่วยเป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อน แปดร้อยกว่าคนมาเทียบกับของผู้ที่มีสุขภาพดีเจ็ดร้อยห้าสิบสี่คน โดยขอให้พวกเขานึกถึงน้ำหนักตัวเองในช่วงต่างๆ ในชีวิตด้วย

การศึกษาวิจัยดังกล่าวพบว่า ผู้ที่น้ำหนักตัวเกินพิกัดตอนที่ยังเป็นวัยรุ่นนั้นมีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อน มากกว่าผู้ที่มีรูปร่างผอมบางกว่าถึงสองเท่าตัว ผู้ที่เป็นโรคอ้วนตอนที่ยังอยู่ในวัยหนุ่มสาวนั้น มีโอกาสเป็นโรคมะเร็งที่ว่านี้มากกว่าคนวัยเดียวกัน ที่มิได้เป็นโรคอ้วนนั้นถึงสองเท่าตัว

การศึกษาวิจัยยังพบด้วยว่า การมีน้ำหนักตัวเกินพิกัดเป็นปัจจัยอย่างหนึ่ง ที่แพทย์ตรวจพบว่าทำให้เป็นโรคดังกล่าวเร็วกว่าผู้ที่น้ำหนักตัวไม่เกินพิกัดสองถึงห้าปี

ศาสตราจารย์ ดอง-ฮี ลีกล่าวไว้ตอนนี้ว่า "การควบคุมน้ำหนักตั้งแต่อายุยังน้อย ตอนเราอยู่ในวัยหนุ่มสาวนั้นเป็น วิธีลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งชนิดนี้ที่สำคัญที่สุด"

ศาสตราจารย์ดอง-ฮี ลีกล่าวด้วยว่าการมีน้ำหนักตัวเกินพิกัด ในหมู่ผู้ชายมีความเกี่ยวโยงกับโรคมะเร็งที่ตับอ่อนมากกว่าทางฝ่ายผู้หญิง ผลของการศึกษาวิจัยยังแสดงว่า ผู้ที่สูบบุหรี่นั้นมีความเกี่ยวโยงกับการเป็นโรคมะเร็งที่ตับอ่อน มากกว่าผู้ที่ไม่สูบบุหรี่มากทีเดียว

การศึกษาวิจัยข้างต้น ลงพิมพ์อยู่ในวารสารแห่งแพทยสมาคมแห่งอเมริกา