ลิ้งค์เชื่อมต่อ

พิพิธภัณฑ์รัฐเวอร์จิเนียจัดแสดงนิทรรศการสุดยอดศิลปะการสักแบบญี่ปุ่น


Melissa Thomas, IT specialist in Washington, D.C. and her Japanese theater mask tattoo.
Melissa Thomas, IT specialist in Washington, D.C. and her Japanese theater mask tattoo.

งานนิทรรศการนี้แสดงชุดภาพถ่ายของคนที่มีรอยสักบนร่างกายจากฝืมือการสักของศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือการสักที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

ปัจจุบัน ชาวอเมริกันนิยมการสักบนร่างกายกันมากขึ้น ประมาณว่าผู้ใหญ่ชาวอเมริกัน 1 ใน 5 คนมีรอยสักอย่างน้อยหนึ่งจุดบนร่างกาย นี่เป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนๆ นอกจากนี้ชาวอเมริกันเหล่านี้ส่วนมากนิยมรอยสักแนวญี่ปุ่นอีกด้วย

พิพิทธภัณฑ์ Virginia Museum of Fine Arts ที่มีชื่อในเมือง Richmond จัดแสดงนิทรรศกาลรอยสักแบบญี่ปุ่นเพื่อแสดงให้เห็นความเก่าแก่ของศิลปะการสักยัน นิทรรศการนี้มีชื่อว่า Perserverance หรือ ความอดทน ไม่ย่อท้อ

งานนิทรรศการนี้แสดงชุดภาพถ่ายของคนที่มีรอยสักบนร่างกายจากฝืมือการสักของศิลปินชาวญี่ปุ่นที่ได้ชื่อว่ามีฝีมือการสักที่ยอดเยี่ยมที่สุดในโลก

คุณ Lee Ann Chesterfield รักษาการรองผู้อำนวยการฝ่ายศิลปะและการศึกษาที่พิพิทธภัณฑ์กล่าวว่าผู้เข้าชมงานนิทรรศการจะได้ชมรอยสักแบบญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมที่กลายเป็นที่นิยมของหมู่ชนอเมริกันรุ่นใหม่ เราจะพบเห็นรอยสักเหล่านี้ได้ในมหานครนิวยอร์คและนครลอสเองเจลลีส

รอยสักสไตล์ญี่ปุ่นแบบดั้งเดิมเหล่านี้มักเป็นรอยสักรูปปลาตะเพียนญี่ปุ่นหรือ koi รอยสักลายมังกร และรอยสักลวดลายดอกซากุระ อาจจะสักเต็มแผ่นหลัง หัวใหล่หรือต้นแขน

คุณ Kip Fulbeck ศิลปินช่างภาพเป็นผู้ร่วมจัดทำนิทรรศการนี้กับคุณ Takahiro Horitaka Kitamura ศิลปินสักยันชาวญี่ปุ่นที่มีชื่อเดียงโด่งดัง พวกเขาได้เลือกผลงานของศิลปินสักรอยระดับชั้นนำของโลก 7 คนและศิลปินคนอื่นๆ ที่สักสไตล์ญี่ปุ่น

คุณ Fulbeck กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ารอยสักแบบญี่ปุ่นแตกต่างจากรอยสักแบบตะวันตกอย่างมาก รอยสักเป็นเป็นงานศิลปะที่ได้รับการยกย่องชื่นชมในประเทศต่างๆ ทั่วโลก ยกเว้นในประเทศต้นกำเนิด นั่นเป็นเพราะว่าในญี่ปุ่น คนมองว่ารอยสักเป็นสัญลักษณ์ของกลุ่มมาเฟียที่เรียกกันว่ายากูซ่า คุณ Fulbeck หวังว่างานนิทรรศการที่จัดขึ้นนี้จะช่วยกำจัดความคิดแบบผิดๆ นี้ได้

คุณ Fulbeck เองมีรอยสักหลายจุดด้วยกัน รอยสักบนแขน หน้าอกและแผ่นหลัง เป็นฝีมือการสักของศิลปินระดับปรมาจารย์สามคนด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือคุณ Kitamura ผู้ร่วมจัดนิทรรศการหนนี้นี่เอง

ความสัมพันธ์ระหว่างลูกค้ากับศิลปินสักในญี่ปุ่นแตกต่างจากที่อื่นๆ เพราะงานสักแบบญี่ปุ่นต้องใช้เวลานานมาก เป็นความสัมพันธ์ที่มีความเคารพต่อกัน เกิดความแน่นเเฟ้นและเป็นความสัมพันธ์ที่ยืนยาว

คุณ Fulbeck อธิบายว่าการสักในญี่ปุ่นต่างจากในตะวันตกที่ลูกค้าไปเลือกเองได้ว่าจะสักลวดลายอะไร ในญี่ปุ่น ศิลปินผู้สักที่ฝีมือระดับปรมาจารย์จะเป็นผู้ตัดสินใจให้ลูกค้าเอง

รอยสักสไตล์ญี่ปุ่นใช้เวลาในการสักนานกว่ารอยสักแบบตะวันตกเพราะมีลวดลายที่ซับซ้อนและละเอียดมากกว่า

คุณ Fulbeck กล่าวว่าศิลปินอาจต้องใช้เวลา 50 ชั่วโมง 100 ชั่วโมง หรือ 200 ชั่วโมงหรือนานกว่านั้นในการสัก พวกเขาถือว่านี่เป็นงานศิลปะรูปแบบหนึ่งและคงอยู่ในโลกเพียงชั่วคราวเท่านั้นเพราะเมื่อสักเสร็จแล้ว ลูกค้าก็จะออกจากร้านไป และในที่สุด เมื่อเจ้าของรอยสักเสียชีวิต ผลงานรอยสักนั้นก็จะตายไปพร้อมๆ กับเจ้าของรอยสักซึ่งเป็นความเชื่อตามนิกายเซน เขาย้ำว่าเจ้าของรอยสักทุกคนที่เขานำภาพมาแสดงในนิทรรศการนี้ล้วนเคารพยกย่องในความเป็นศิลปินของผู้สักรอย

แต่ไม่ว่าจะเป็นรอยสักสไตล์ใหน ชาวอเมริกันและคนในหลายๆ ประเทศต่างยอมรับกันมากขึ้นว่ารอยสักก็เป็นงานศิลปะอย่างหนึ่ง

XS
SM
MD
LG