เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ประชาชนชาวเอเชียในบางประเทศต่างเฉลิมฉลอง Mid-Autumn Festival หรือ เทศกาลไหว้พระจันทร์ ซึ่งสิ่งหนึ่งที่ขาดไม่ได้ก็คือ ขนมไหว้พระจันทร์
แต่ละปีที่ฮ่องกงจะมีขนมไหว้พระจันทร์จำนวนมากที่ถูกทิ้งลงถังขยะหลังเทศกาลนี้สิ้นสุดลง ซึ่งองค์กรการกุศลแห่งหนึ่งกำลังพยายามหาแนวทางจัดการกับขยะที่มาจากขนมไหว้พระจันทร์เหล่านี้
ที่ศูนย์ชุมชน เจ็ก เล่ย (Shek Lei) ทางเหนือของฮ่องกง กล่องใส่ขนมไหว้พระจันทร์จำนวนมากถูกนำมาวางเรียงซ้อนกันเพื่อนำไปแจกจ่ายให้กับครอบครัวยากจนและคนไร้บ้านในฮ่องกง หนึ่งวันหลังจากเทศกาลไหว้พระจันทร์สิ้นสุดลง
องค์กรการกุศล Food Grace เป็นผู้รวบรวมขนมไหว้พระจันทร์จำนวน 76,000 ก้อนนี้มาจากโรงงานผลิตขนมไหว้พระจันทร์หลายแห่ง ที่ผลิตสินค้าเหลือมากเกินความต้องการของลูกค้าในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ที่ต้องมีการส่งของขวัญเป็นขนมหลากหลายไส้ให้กับเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว หรือมอบให้กันในเชิงธุรกิจ
New York Times รายงานว่า ปัจจุบันอุตสาหกรรมขนมไหว้พระจันทร์ทั่วโลกมีมูลค่าราว 2,000 ล้านดอลลาร์ โดยแต่ละปีจะมีขนมไหว้พระจันทร์มากกว่า 2 ล้านก้อนที่ถูกทิ้งตามสถานที่ทิ้งขยะต่างๆ ในฮ่องกง หลังหมดเทศกาลไหว้พระจันทร์ คิดเป็นมูลค่าเกือบ 13 ล้านดอลลาร์
คุณเคซีย์ อึ้ง (Casey Ng) แห่งองค์กร Food Grace กล่าวว่า สิ่งนี้เกิดขึ้นมานานในฮ่องกง และดูเหมือนจำนวนขนมที่ถูกนำไปทิ้งมีจำนวนเพิ่มขึ้นทุกปี เนื่องจากบริษัทผู้ผลิตจำเป็นต้องทำยอดขายเพิ่มขึ้นทุกปีเช่นกัน ดังนั้น เราจึงเห็นขนมไหว้พระจันทร์ไส้ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด นอกจากนี้ยังมีรูปร่างหน้าตาที่ดูหรูหราขึ้นทุกปีด้วย
ตามธรรมเนียมดั้งเดิม ขนมไหว้พระจันทร์ซึ่งเป็นตัวแทนของดวงจันทร์ มักทำขึ้นอย่างง่ายๆ ด้วยไส้ถั่วแดง หรือธัญพืช และมีไข่แดงอยู่ตรงกลาง แต่ปัจจุบัน ขนมชนิดนี้มีไส้เพิ่มขึ้นมามากมายหลากหลายอย่าง เช่น ไส้ทุเรียน ธัญพืช ใบเตย ช็อคโกแลต และคัสตาร์ด
เช่นเดียวกับราคาที่เพิ่มขึ้นหลายระดับ จากขนมไหว้พระจันทร์แบบปกติที่มีราคาประมาณ 25 ดอลลาร์ ตามร้านค้าทั่วไปในฮ่องกง ไปจนถึงราคาสูงกว่า 100 ดอลลาร์ ที่ผลิตโดยโรงแรมหรูหรือบริษัทที่มีชื่อเสียง ซึ่งมาพร้อมกับหีบห่อหรูหราพิสดาร
คุณเคซีย์ อึ้ง กล่าวว่า ธรรมเนียมการส่งขนมไหว้พระจันทร์นี้อาจกลายเป็นภาระที่หนักอึ้งสำหรับครอบครัวที่รายได้ต่ำ ดังนั้นทางองค์กร Food Grace จึงจัดทำโครงการส่งต่อขนมไหว้พระจันทร์ขึ้นมา โดยจะไปติดต่อขอรับขนมไหว้พระจันทร์ที่เหลือทิ้งตามโรงงาน และตั้งจุดรับบริจาคขนมกว่า 60 จุดตามสถานที่ต่างๆ ด้วย
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทางองค์กรแห่งนี้พยายามทำอยู่ ก็คือการให้ความรู้กับประชาชนทั่วไปว่า การที่ไม่ส่งขนมไหว้พระจันทร์ให้กับใครในช่วงเทศกาลนี้ มิได้หมายความว่าความสัมพันธ์กับคนคนนั้นจะต้องสิ้นสุดตามไปด้วย
คุณอึ้ง บอกว่า เหตุผลสนับสนุนเรื่องนี้ก็คือ รายงานการสำรวจที่ว่าผู้คนจำนวนมากไม่ต้องการได้รับขนมไหว้พระจันทร์เหมือนเมื่อก่อน เพราะรู้สึกว่ามากเกินไปและสิ้นเปลืองเกินไป
