รัฐมนตรีด้านสาธารณสุขของประเทศสมาชิกองค์การอนามัยโลกหรือ WHO 193 ประเทศ ร่วมประชุมใหญ่ที่นครเจนีวาเพื่อหารือสถานการณ์ด้านสุขภาพและปัญหาในปัจจุบัน ซึ่งรวมถึงเรื่องการเตรียมพร้อมรับมือโรคระบาดจากไข้หวัดใหญ่ ผลกระทบของกัมมันตภาพรังสีโดยมุ่งเน้นที่เหตุการณ์ภัยพิบัติด้านนิวเคลียร์ในญี่ปุ่น ตลอดจนความก้าวหน้าและปัจจัยสำคัญในการต่อสู้กับโรคติดต่อและโรคไม่ติดต่อต่างๆ
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก Margaret Chan กล่าวเริ่มการประชุมด้วยการนำเสนอภาพในทางบวกด้านสาธารณสุขโลก ได้แก่ความสำเร็จที่เกิดขึ้นโดยเฉพาะกับประชากรในแถบ Sub-Sahara หรือประเทศแถบทางใต้ของทะเลทรายซะฮาร่าในอาฟริกา
Dr. Margaret Chan ระบุว่าโรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบที่ระบาดในอาฟริกานั้น อาจไม่ใช่โรคที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตมากที่สุด แต่ก็เป็นโรคที่น่าสะพรึงกลัวที่สุดโรคหนึ่งซึ่งระบาดอย่างรวดเร็ว ประชาชนต่างรอเข้าแถวยาวเพื่อขอรับวัคซีนป้องกัน แต่เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว วัคซีนชนิดใหม่ได้ช่วยป้องกันการระบาดในพื้นที่ที่มีผู้ป่วยโรคเยื้อหุ้มสมองอักเสบมากที่สุดในอาฟริกาได้แล้ว นอกจากนี้ยังมีความก้าวหน้าทางการแพทย์และสาธารณสุขในภูมิภาคอื่นๆของโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆด้านสาธารณสุข
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกยังบอกด้วยว่าความสำเร็จทางสาธารณสุขในช่วงปีที่ผ่านมานั้น รวมถึงชุดทดสอบวัณโรคแบบใหม่ที่สามารถบอกผลได้อย่างรวดเร็วในเวลาราว 1 ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น การแจกจ่ายยาต้านเชื้อไวรัส HIV ให้แก่ผู้ติดเชื้อหลายล้านคน มุ้งกันยุงเพื่อป้องกันการระบาดของโรคมาลาเรีย และความคืบหน้าในการรับมือกับโรคเขตร้อนหลายชนิดที่ถูกมองข้ามไป
อย่างไรก็ตามแม้จะมีข่าวที่น่ายินดีมากมาย แต่ Dr. Margaret Chan ชี้ว่ายังมีปัญหาท้าทายอีกมากรออยู่ เช่นวิกฤตการณ์ด้านราคาอาหารและราคาเชื้อเพลิง ผลกระทบจากภาวะโลกร้อนและการกำหนดนโยบายต่างๆ ซึ่งล้วนเป็นอุปสรรคต่อการทำงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก
ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลกยังระบุถึงภัยคุกคามจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรังเช่น โรคมะเร็งและโรคเบาหวานที่กำลังคร่าชีวิตประชากรโลกมากขึ้นเรื่อยๆ และในขณะเดียวกันก็แสดงความยินดีต่อผลการสืบสวนที่ช่วยให้องค์การอนามัยโลกรอดพ้นจากข้อกล่าวหาที่ว่า การประกาศเตือนภัยไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ H1N1 ระบาดเมื่อ 2 ปีก่อนนั้นไม่ใช่เรื่องจริง แต่เป็นการปั้นเรื่องขึ้นเพื่อหากำไรให้กับบริษัทผู้ผลิตยาต่างๆ
