สำหรับชาวต่างชาติจำนวนมากที่ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลแพงๆในประเทศตน ชาติเอเชียกลายเป็นแหล่งของการรักษาพยาบาลและการบริการทางการแพทย์ราคาย่อมเยาำกว่า สำหรับแขนงการแพทย์ด้านศัลยกรรมพลาสติก หลายคนเลือกไปเกาหลีใต้ สำหรับการผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะ เมืองจีนเป็นที่นิยมมาก ส่วนเมืองไทย ขึ้นชื่อทางด้านงานทันฑกรรมและการดึงหน้าให้ดูอ่อนวัย
เมื่อเร็วๆ นี้ กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซีย ประกาศความมุ่งมั่นว่าจะพัฒนาประเทศให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางการแพทย์ภายในปีพุทธศักราช 2558 หรืออีกภายในสามปีข้างหน้า
อินโดนีเซียปัจจุบันมีโรงพยาบาลที่ได้มาตราฐานนานาชาติแค่ห้าแห่งทั่วประเทศแต่มีประชากรทั้งหมด 240 ล้านคน ทางกระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียหวังว่าจะสามารถเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลที่ได้มาตราฐานนานาชาติขึ้นให้ได้มากกว่าสองเท่าตัวภายในสามปี
นายสุปรียานโทโร่ ผู้อำนวยการฝ่ายการบริการทางการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุขอินดดนีเซีย กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ต้องการส่งเสริมการท่้องเที่ยวทางการแพทย์แก่บรรดานักท่องเที่ยวจากในแถบเอเชียแปซิฟิกก่อน โดยเฉพาะจากออสเตรเลีย มาเลเซียและไทย
แม้ว่าจะรู้ดีว่าไทยและมาเลเซียมีโครงการการท่องเที่ยวทางการแพทย์ที่มีคุณภาพมากกว่าตนก็ตาม
เกาะบาหลี เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติทางด้านสุขภาพอยู่แล้วในปัจจุบัน จะเป็นพื้นที่หลักในการพัฒนาโครงการการท่องเที่ยวทางการแพทย์ของอินโดนีเซีย
นายเหว่ย เวียง ยู แพทย์ชาวสิงคโปร์กล่าวว่า โครงการนี้จะสร้างชื่อใหม่ให้กับเกาะบาหลี ที่ปกติมีฉายาว่าเป็นเกาะแห่งเทพพระเจ้าต่างๆ
นายแพทย์ชาวสิงคโปร์คนนี้บอกว่าสิงคโปร์ ไทยและมาเลเซียเป็นชาติผู้นำด้านการแพทย์ทั่วไปหลักๆในขณะนี้ แต่ในแขนงการแพทย์ด้านการเจริญพันธุ์หรือการมีบุตร ยังไม่มีประเทศใหนในเอเชียที่นำในด้านนี้ วิชาการการแพทย์แขนงนี้มีเทคโนโลยีทันสมัยเข้ามาเกี่ยวข้อง เกาะบาหลีมีชื่อทางด้านความสวยงามในสายตานักท่องเที่ยวนานาชาติและมีการบริการการท่องเที่ยวด้านสุขภาพอยู่แล้ว
ปัจจุบันผู้หญิงส่วนมากแต่งงานและมีบุตรเมื่ออายุมากขึ้น นาย Wei Siang Yu แพทย์ชาวสิงคโปร์กล่าวว่า มีคนจำนวนมากขึ้นที่ต้องการใช้บริการทางการแพทย์เพื่อช่วยให้มีบุตร อาทิ การปฏิสนธิเด็กในหลอดแก้ว หรือ IVF ที่ราคาย่อมเยา เขาคิดว่าเกาะบาหลีเหมาะกับการบริการทางการแพทย์แขนงนี้เพราะมีสภาพภูมิทัศน์สวยงามช่วยให้การปฏิสนธิเด็กหลอดแก้วประสบความสำเร็จได้
ผู้สื่อข่าววีโอเอที่กรุงจาการ์ต้ารายงานว่าชาวอินโดนีีเซียผู้มีอันจะกินมักเดินทงไปสิงค์โปร์และมาเลเซียเพื่อใช้บริการทางการแพทย์ นักวิจารณ์โครงการนี้ชี้ว่าระบบสาธารณสุขของอินโดนีเซียไม่พร้อมที่จะแข่งขันในด้านนี้
ด็อกเตอร์ ปริโจ ซิดิปราตราโม ประธานสมาคมการแพทย์อินโดนีเซีย กล่าวว่า รัฐบาลอินโดนีเซียสับสนในเรื่องการจัดลำดับความสำคัญ
เขากล่าวว่า ก่อนที่ทางการจะประกาศแผนการอย่างนี้ออกมา ควรจะตระหนักเสียก่อนว่ามีคนอินโดนีเซียจำนวนมากที่ไม่ได้รับการบริการทางการแพทย์ เขาคิดว่าความรับผิดชอบหลักของรัฐบาลคือการทำให้คนอินโดนีเซียทุกคนเข้าถึงการรักษาพยาบาลเสียก่อน
ในอินโดนีเซีย ทางการมีโครงการรักษาพยาบาลฟรีแก่ประชาชนทุกคน แต่มีประชาชนส่วนมากยังไม่สามารถเข้าถึงการบริการทางการแพทย์ของรัฐดังกล่าว โดยเฉพาะประชาชนในชนบทห่างไกลที่ขาดแคลนคลีนิคและแพทย์
