เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา คณะกรรมการรางวัลโนเบลได้ประกาศ ชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปีนี้ ซึ่งได้แก่อดีตประธานาธิบดี ฟินแลนด์ Martti Ahtisaari นักรณรงค์เพื่อสันติภาพและแก้ไขปัญหาความขัดแย้งในหลายประเทศทั่วโลก
คณะกรรมการรางวัลโนเบลกล่าวยกย่องภารกิจอันสำคัญของอดีตผู้นำ ฟินแลนด์ที่พยายามนำสันติภาพมาสู่ส่วนต่างๆ ของโลกมาเป็นเวลากว่า 3 ทศวรรษ ทั้งในขณะที่ดำรงตำแหน่งฑูตสหประชาชาติ ประธานาธิบดีฟินแลนด์ และล่าสุดนักรณรงค์และผู้ก่อตั้งองค์กรเพื่อสันติภาพ Crisis Management Innitiative โดยในแถลงการณ์รางวัลโนเบลระบุว่านาย Martti Ahtisaari เคยมีบทบาทสำคัญในการลดปัญหาความขัดแย้งที่รุนแรงยาวนานในหลายประเทศ เช่น นามิเบีย อินโดนีัเซีย โคโซโวและอิรัก ซึ่งเจ้าของรางวัลโนเบล สาขาสันติภาพประจำปีนี้ใหสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์ในนอร์เวย์ว่า การเจรจา สันติภาพที่นามิเบียเมื่อปี 1989-1990 คือความสำเร็จสูงสุดในชีวิตของตน
การเจรจาในครั้งนั้นช่วยให้นามิเบียเป็นอิสระจากการปกครองของ อาฟริกาใต้ สำหรับประวัติส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดี Ahtisaari นั้น ปัจจุบันอายุ 71 ปี เขาเริ่มต้นการทำงานด้วยการเป็นครูก่อนที่จะเข้ามาทำงาน ในกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์เมื่อปี 1965 เคยดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟินแลนด์ก่อนที่จะได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีฟินแลนด์เมื่อปี 1994 และอยู่ในตำแหน่งเป็นเวลา 6 ปีเต็ม หลังจากพ้นจากตำแหน่ง เขาหันมาทุ่มเทให้กับการทำงานสร้างสันติภาพระหว่างประเทศอย่างเต็มที่ โดยอดีตประธานาธิบดี Ahtisaari ก่อตั้งองค์กร Crisis Management Innitiative ในปี 2000 ซึ่งเป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไรที่ทำงานด้านการแก้ไขปัญหาความ ขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆทั่วโลก คุณ Gareth Evans ประธานกลุ่ม International Crisis Group ซึ่งเป็นองค์กรเพื่อสันติภาพอีกองค์กรหนึ่งบอกว่า ตัวเขาเองรู้จักคุณ Ahtisaari เป็นอย่างดี อดีตผู้นำฟินแลนด์ผู้นี้เป็นนักการฑูตที่ เก่งกาจและมีบุคลิกภาพน่าเลื่อมใส เป็นคนตรง แน่วแน่ มีเหตุผล ซึ่งเป็นบุคลิก ที่เหมาะสมต่อการเจรจาต่อรอง
คุณ Gareth Evans ยังบอกด้วยว่าการมอบรางวัลโนเบลสาขา สันติภาพในปีนี้ให้แก่คุณ Martti Ahtisaari แสดงให้เห็นว่าคณะกรรมการ รางวัลโนเบลกำลังย้อนไปสู่ประเพณีเดิมคือการมอบรางวัลสาขาสันติภาพให้แก่ผู้ที่ทำงานด้านการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งและสร้างสันติภาพระหว่างประเทศ เป็นหลัก
คุณ Evans จาก International Crisis Group บอกว่า ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมักจะเป็นนักรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อม หรือนักสิทธิมนุษยชน ซึ่งเขาคิดว่าเป็นเรื่องสำคัญที่รางวัลโนเบลสาขานี้ควรเป็นของผู้ที่ทำงานด้านสันติภาพและความมั่นคงซึ่งเป็นหัวใจหลักของรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ โดยเมื่อปีที่แล้วผู้ได้รับรางวัลสาขานี้คืออดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐ อัล กอร์ กับคณะกรรมการด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพบรรยากาศโลกของสห ประชาชาติ
