รัฐบาลตะวันตกเกรงว่ารัสเซียอาจอยู่เบื้องหลังการประท้วง 3 เมืองใหญ่ทางภาคตะวันตกของยูเครนคือเมือง Donetsk Luhansk และ Kharkiv หลังจากผู้ประท้วงที่สนับสนุนรัสเซียบุกยึดอาคารลำนักงานในเมืองดังกล่าว เรียกร้องให้มีการลงประชามติเพื่อแยกตนเองเป็นอิสระ ดังที่เกิดขึ้นในแคว้นไครเมียเมื่อเดือนที่แล้ว
คุณ Pavel Felgenhauer นักวิเคราะห์ด้านความมั่นคงจาก นสพ.Novaya Gazetta ชี้ว่าความตึงเครียดใน 3 เมืองใหญ่ของยูเครน อาจเป็นข้ออ้างให้รัสเซียส่งทหารข้ามพรมแดนเข้าไปในยูเครนเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประชาชนที่พูดภาษารัสเซียในเมืองดังกล่าว เหมือนที่ทำกับแคว้นไครเมีย โดยเชื่อว่าขณะนี้ทหารรัสเซียมีความพร้อมสูงสุดที่จะบุกยูเครน แต่ความพร้อมนั้นจะคงอยู่ในช่วงเวลาจำกัดคือตั้งแต่ตอนนี้ถึงกลางเดือน พ.ค เพราะหลังจากนั้นจึงช่วงผลัดเปลี่ยนทหารชุดใหม่ ซึ่งกว่าจะพร้อมเต็มที่อีกทีก็เป็นช่วงเดือน ส.ค
คุณ Pavel Felgenhauer ระบุด้วยว่ายูเครนก็มีเวลาถึงช่วงกลางเดือน พ.ค ในการเตรียมรับมือการรุกรานจากรัสเซียเช่นกัน ซึ่งขณะนี้รัฐสภายูเครนกำลังเร่งผลักดันร่าง กม. ต่อต้านการแบ่งแยกดินแดนเพื่อป้องกันการรุกรานของรัสเซีย
ด้านศาตราจารย์ Mark Galeotti ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงแห่ง New York University ระบุว่าขณะนี้สิ่งที่กองทัพยูเครนจะทำได้คือการพยายามนำตัวผู้ประท้วงใน 3 เมืองทางภาคตะวันออกของยูเครนออกไปจากอาคารสำนักงานต่างๆ โดยเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้การประท้วงลุกลาม
แต่ทางคุณ Igor Sutyagin หางสถาบัน London’s Royal United Service ชี้ว่าการบุกรุกของรัสเซียนั้นอาจจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็ววันนี้ เพราะรัสเซียยังต้องการกำลังทหารที่เข้มแข็งมากกว่าเดิม ส่วนคุณ Ben Barry แห่ง International Institute for Strategic Studies เห็นว่ารัสเซียอาจต้องเผชิญการต่อต้านหากประชาชนยูเครนใน 3 เมืองดังกล่าว เนื่องจากเมืองเหล่านั้นมีประชาชนที่พูดภาษารัสเซียในสัดส่วนที่น้อยกว่าประชาชนที่พูดรัสเซียในแคว้นไครเมียทางใต้ของยูเครน
รายงานจากห้องข่าว VOA / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล
