กลุ่ม Clarity เป็นหน่วยงานนานาชาติที่เป็นการรวมตัวของทนายความและคนจากสาขาอาชีพอื่นๆ พวกเขามีจุดประสงค์ร่วมกันคือหาทางกำจัดการใช้ภาษาที่ยุ่งยาก ซับซ้อนในการเขียนเอกสารทางกฏหมายก่อตั้งขึ้นเมื่อสามสิบปีที่แล้วและปัจจุบันมีสมาชิกหกร้อยห้าสิบคนในห้าสิบประเทศทั่วโลก
กลุ่ม Clarity เน้นการร่างเอกสารทางกฏหมายด้วยภาษาง่ายๆ แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆอีกหลายแห่งที่เป็นผู้ให้คำแนะนำในการใช้ภาษาง่ายๆในการร่างเอกสารทางธุรกิจและเอกสารรัฐบาล ในบรรดาหน่วยงานเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือ Center for Plain Language ในกรุงวอชิงตัน
Annetta Cheek ประธานของศูนย์ Center for Plain Language หรือศูนย์เพื่อภาษาเรียบง่าย กล่าวว่า ทางศูนย์เห็นว่าการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน สับสน การใช้ภาษาทางการและภาษากฏหมายที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ เป็นปัญหาใหญ่มากกว่าแค่สร้างความรำคาญใจ เพราะอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจข้อมูลสำคัญๆผิด เกิดผลเสียต่อการตัดสินใจทางการเงินและทรัพย์สินได้
เมื่อสองปีที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติกฏหมายการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายๆ กฏหมายนี้กำหนดให้รัฐบาลสหรัฐใช้ภาษาง่ายๆในการร่างเอกสารทางการชิ้นใหม่ๆ อาทิ แบบฟอร์มต่างๆและประกาศของรัฐบาล
คุณ Cheek ชี้ว่า ในหลายๆประเทศ มีการส่งเสริมการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกันมากขึ้น เธอกล่าวว่าสวีเดนเป็นประเทศแรกๆที่ส่งเสริมการใช้ภาษาง่ายๆในเอกสารราชการ ในนอร์เวย์ ออสเตรเลีย แคนาดาและอาฟริกาใต้ ก็เริ่มมีความพยายามในเรื่องนี้กันมากขึ้น อย่างไรด็ตาม คุณชีคกล่าวว่ายังไม่มีความกระตือรืนร้นในเรื่องนี้ในทวีปเอเชียและในตะวันออกกลาง
ด้าน Christopher Balmford เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนเอกสารทางกฏหมายที่ชัดเจนและเป็นผู้อำนวยการจัดการขององค์การ Words and Beyond ในออสเตรเลีย เขากล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้ภาษาอังกฤษ ก็เหมือนกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้ภาษาอื่นๆทั่วโลก
คุณ Balmford บอกว่า ไม่มีใครในโลกที่ชอบอ่านประโยคที่ยาว ยืดเยื้อ หรือมีการใช้คำที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ คนทั่วไปอาจะตีความคำบางคำต่างจากความหมายที่นักกฏหมายต้องการสื่อสาร
คุณ Balmford กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเขียนที่ชัดเจนคือต้องตระหนักว่าคุณกำลังเขียนให้ใครอ่าน เราต้องใช้คำที่สร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้เขียนและผู้อ่าน
อย่างไรก็ตาม คุณ Balmford บอกว่า การปรับปรุงเรื่องนี้ทำได้ยากและแรงต่อต้านมักมาจากกลุ่มนักกฏหมายหรือทนายความเพราะพวกเขาเกรงว่าการปรับเปลี่ยนแนวการใช้ภาษาในการร่างเอกสารทางกฏหมายอาจจะทำให้เกิดความหมายผิดเพี้ยน
ด้าน Annetta Cheek ประธานศูนย์ Center for Plain Language กล่าวปิดท้ายรายงานว่าทุกคนมีส่วนรับผิดชอบในการใช้ภาษาที่ชัดเจนในเอกสารราชการและบริษัทเอกชน คุณชีค เน้นว่า คนทั่วไปมีส่วนรับผิดชอบด้วยการไม่ยอมรับการสื่อสารที่ด้อยคุณภาพ ในฐานะประชาชนและลูกค้า ต้องรายงานปัญหานี้ทันทีแก่ผู้ออกเอกสาร เพราะทุกคนมีสิทธิ์ในการได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและเรียกร้องให้องค์กรต่างๆและบริษัทเอกชนสื่อสารอย่างชัดเจน
กลุ่ม Clarity เน้นการร่างเอกสารทางกฏหมายด้วยภาษาง่ายๆ แต่ยังมีหน่วยงานอื่นๆอีกหลายแห่งที่เป็นผู้ให้คำแนะนำในการใช้ภาษาง่ายๆในการร่างเอกสารทางธุรกิจและเอกสารรัฐบาล ในบรรดาหน่วยงานเหล่านี้ หนึ่งในนั้นคือ Center for Plain Language ในกรุงวอชิงตัน
Annetta Cheek ประธานของศูนย์ Center for Plain Language หรือศูนย์เพื่อภาษาเรียบง่าย กล่าวว่า ทางศูนย์เห็นว่าการสื่อสารที่ไม่ชัดเจน สับสน การใช้ภาษาทางการและภาษากฏหมายที่คนทั่วไปไม่เข้าใจ เป็นปัญหาใหญ่มากกว่าแค่สร้างความรำคาญใจ เพราะอาจทำให้คนทั่วไปเข้าใจข้อมูลสำคัญๆผิด เกิดผลเสียต่อการตัดสินใจทางการเงินและทรัพย์สินได้
เมื่อสองปีที่แล้ว วุฒิสภาสหรัฐได้อนุมัติกฏหมายการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายๆ กฏหมายนี้กำหนดให้รัฐบาลสหรัฐใช้ภาษาง่ายๆในการร่างเอกสารทางการชิ้นใหม่ๆ อาทิ แบบฟอร์มต่างๆและประกาศของรัฐบาล
คุณ Cheek ชี้ว่า ในหลายๆประเทศ มีการส่งเสริมการใช้ภาษาที่เข้าใจง่ายกันมากขึ้น เธอกล่าวว่าสวีเดนเป็นประเทศแรกๆที่ส่งเสริมการใช้ภาษาง่ายๆในเอกสารราชการ ในนอร์เวย์ ออสเตรเลีย แคนาดาและอาฟริกาใต้ ก็เริ่มมีความพยายามในเรื่องนี้กันมากขึ้น อย่างไรด็ตาม คุณชีคกล่าวว่ายังไม่มีความกระตือรืนร้นในเรื่องนี้ในทวีปเอเชียและในตะวันออกกลาง
ด้าน Christopher Balmford เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนเอกสารทางกฏหมายที่ชัดเจนและเป็นผู้อำนวยการจัดการขององค์การ Words and Beyond ในออสเตรเลีย เขากล่าวว่าปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้ภาษาอังกฤษ ก็เหมือนกับปัญหาที่เกิดขึ้นกับการใช้ภาษาอื่นๆทั่วโลก
คุณ Balmford บอกว่า ไม่มีใครในโลกที่ชอบอ่านประโยคที่ยาว ยืดเยื้อ หรือมีการใช้คำที่อ่านแล้วไม่เข้าใจ คนทั่วไปอาจะตีความคำบางคำต่างจากความหมายที่นักกฏหมายต้องการสื่อสาร
คุณ Balmford กล่าวว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดของการเขียนที่ชัดเจนคือต้องตระหนักว่าคุณกำลังเขียนให้ใครอ่าน เราต้องใช้คำที่สร้างความเข้าใจตรงกันระหว่างผู้เขียนและผู้อ่าน
อย่างไรก็ตาม คุณ Balmford บอกว่า การปรับปรุงเรื่องนี้ทำได้ยากและแรงต่อต้านมักมาจากกลุ่มนักกฏหมายหรือทนายความเพราะพวกเขาเกรงว่าการปรับเปลี่ยนแนวการใช้ภาษาในการร่างเอกสารทางกฏหมายอาจจะทำให้เกิดความหมายผิดเพี้ยน
ด้าน Annetta Cheek ประธานศูนย์ Center for Plain Language กล่าวปิดท้ายรายงานว่าทุกคนมีส่วนรับผิดชอบในการใช้ภาษาที่ชัดเจนในเอกสารราชการและบริษัทเอกชน คุณชีค เน้นว่า คนทั่วไปมีส่วนรับผิดชอบด้วยการไม่ยอมรับการสื่อสารที่ด้อยคุณภาพ ในฐานะประชาชนและลูกค้า ต้องรายงานปัญหานี้ทันทีแก่ผู้ออกเอกสาร เพราะทุกคนมีสิทธิ์ในการได้รับข้อมูลที่ชัดเจนและเรียกร้องให้องค์กรต่างๆและบริษัทเอกชนสื่อสารอย่างชัดเจน