ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การติดเชื้อเอดส์สองสายพันธุ์ซ้อนกันพบบ่อยกว่าที่คาด


ผู้เชี่ยวชาญพบว่าการติดเชื้อเอดส์หลายสายพันธุ์ต่อเนื่องกันที่เรียกว่าเอชไอวีซุปเปอร์อินเฟ็คชั่นส์ (HIV superinfections ) เป็นปัญหาการติดเชื้อที่เกิดขึ้นบ่อยและในวงกว้างกว่าที่คาด

Dr. Andrew Redd นักวิทยาศาสตร์แห่งสถาบัน National Institute of Allergy and Infectious Diseases ในสหรัฐเป็นหัวหน้าทีมวิจัยที่ศึกษาเรื่องการติดเชื้อเอชไอวีแบบซุปเปอร์อินเฟ็คชั่นส์นี้
Dr. Andrew Redd กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่า ซุปเปอร์อินเฟ็คชั่นส์เกิดชึ้นเมื่อผู้ป่วยได้รับเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ใดสายพันธุ์หนึ่งเข้าไปในร่างกาย มีการสร้างภูมิขึ้นมาต่อต้านเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ดังกล่าว แล้วต่อมามีการติดเชื้อเอดส์ต่างสายพันธุ์เข้าไปอีก ทำให้ร่างกายติดเชื้อเอชไอวีซ้อนกันสองสายพันธุ์

Dr. Andrew Redd กล่าวว่าก่อนหน้าการวิจัยที่เขาจัดทำขึ้นในประเทศยูกันดา ทีมวิจัยเชื่อกันว่าการติดเชื้อเอชไอวีซ้อนกันสองสายพันธุ์ พบไม่บ่อย และเชื่อว่าเกิดเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้ยาเสพติดชนิดฉีดเข้าเส้นเลือดกับกลุ่มชายรักเพศเดียวกันเท่านั้น แต่จริงๆแล้วไม่ได้เป็นเช่นนั้น

Dr. Andrew Redd กล่าวว่าทีมวิจัยพบว่าการติดเชื้อเอชไอวีซ้อนกันหลายสายพันธุ์เกิดขึ้นในกลุ่มประชากรทั่วไปที่มีพฤติกรรมทางเพศปกติด้วยและเกิดขึ้นในอัตราที่สูง

ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการติดเชื้อเอชไอวีหลายสายพันธุ์ซ้อนกัน ขึ้นอยู่กับว่าอาศัยอยู่ที่ไหนและแหล่งที่อยู่มีเชื้อไวรัสเอชไอวีสายพันธุ์ย่อยต่างๆแพร่ระบาดหรือไม่ สายพันธุ์ย่อยของเชื้อเอชไอวีได้รับการเรียกชื่อตามลำดับตัวอักษร คือ เอ บี ซี และ ดี ในประเทศยูกันดา มีเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ย่อย เอ และ ดี ระบาด

พฤติกรรมทางเพศแบบเสี่ยง นำไปสู่การติดเชื้อเอชไอวีซ้อนสายพันธุ์ วีธีตรวจหาเชื้อเอชไอวีต่างๆที่ใช้กันในปัจจุบันสามารถระบุได้ว่าติดเชื้อหรือไม่ แต่ไม่สามารถสรุปได้ว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์ย่อยสายพันธุ์ใด แต่ในการวิจัย ทีมงานต้องใช้วิธีการวิเคราะห์ลักษณะยีนของเชื้อไวรัสเอชไอวีเพื่อระบุสายพันธุ์
หากผู้ป่วยที่ได้รับเชื้อเอชไอวีซ้อนกันหลายสายพันธุ์ย่อย ไม่ได้รับการรักษา จะปรากฏอาการป่วยเร็วขึ้นกว่าเดิม แต่ Dr. Andrew Redd หัวหน้าทีมวิจัยเรื่องนี้ เชื่อว่า ยาต้านไวรัสตามมาตรฐานทั่วไปน่าจะใช้ได้ผลในการบำบัดผู้ป่วยเอชไอวีซุปเปอร์อินเฟ็คชั่นส์

Dr. Andrew Redd กล่าวว่า ทีมวิจัยยังไม่พบผลกระทบทางการรักษษจากการติดเชื้อเอชไอวีซ้อนหลายสายพันธุ์ย่อย เพราะผู้ป่วยในการศึกษาตอบสนองในทางบวกต่อยาต้านไวรัสที่ใช้บำบัด ปริมาณเชื้อไวรัสในร่างกายลดลงและผู้ป่วยแข็งแรงขึ้น

อย่างไรก็ดี ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าการติดเชื้อเอชไอวีซ้อนสองสายพันธุ์อาจจะกระทบต่อวิธีการศึกษาเพื่อคิดค้นวัคซีนป้องกันโรคเอดส์ ยกตัวอย่างเช่น คนบางคนติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์แรก และมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ที่สอง แต่กลับไม่ติดเชื้อซ้ำ แสดงว่าพวกเขามีภูมิคุ้มกันบางอย่างที่นักวิจัยยังไม่สามารถระบุได้

Dr. Redd กล่าวว่าเกิดคำถามว่ามีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติอะไรที่ป้องกันคนเหล่านี้ไม่ให้ติดเชื้อเอชไอวีสายพันธุ์ที่สองเพิ่ม หากทีมวิจัยสามารถระบุได้ว่าเพราะอะไร จะเป็นผลดีต่อการศึกษาพัฒนาวัคซีนป้องกันเอดส์ต่อไป
XS
SM
MD
LG