ลิ้งค์เชื่อมต่อ

Human Rights Watch กล่าวว่ากำลังรักษาความมั่นคงของพม่าและชาวอราคานในยะไข่สมคบกันก่อความรุนแรงต่อชาวโรฮิงจะ


Human Rights Watch กล่าวหาว่า ทหารรัฐบาลพม่ามีส่วนร่วมโจมตีทำร้ายชาวโรฮิงจะ และมิได้สะกัดกั้นความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 คน

เมื่อวันจันทร์ รัฐบาลพม่าออกมาปฏิเสธว่า กำลังรักษาความมั่นคงของประเทศมิได้ข่มเหงประชาชน แต่ได้ใช้ความอดกลั้นอย่างสูงในการปราบจลาจลระหว่างชาวพุทธกับชนเผ่าชาวมุสลิมโรฮิงจะ (Rohingya) ที่รัฐยะไข่ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ถ้อยแถลงดังกล่าวมีออกมาในขณะที่ผู้แทนของสหประชาชาติกำลังอยู่ในระหว่างการเยือนบริเวณเกิดเหตุ

แต่รายงานขององค์การ Human Rights Watch ที่เพิ่งเผยแพร่ออกมาในวันพุธ กล่าวหาว่า ทหารรัฐบาลพม่ามีส่วนร่วมในการโจมตีทำร้ายชาวโรฮิงจะ และมิได้สะกัดกั้นความรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 78 คน และอีกนับหมื่นคนที่ต้องอพยพหนีความรุนแรง

รายงานของ Human Rights Watch กล่าวว่า นับตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา ผู้ชายและเด็กชายชาวโรฮิงจะนับร้อยถูกกวาดต้อนตัวไป และไม่มีผู้ใดทราบว่า ถูกนำไปเก็บไว้ที่ไหน

ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในรัฐยะไข่ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่ในเดือนพฤษภาคม มีสาเหตุมาจากการข่มขืนและสังหารผู้หญิงชาวอราคาน ซึ่งเป็นชาวพุทธ มีการโจมตีตอบโต้ในเดือนมิถุนายน เมื่อชายชาวมุสลิม 10 คนถูกชาวอราคานทำร้ายและสังหาร

Human Rights Watch กล่าวว่า กองกำลังของรัฐบาลยืนมองดูเหตุการณ์ความรุนแรง แต่ไม่ได้เข้าขัดขวางสะกัดกั้น ในขณะที่ตำรวจและหน่วยอาสาสมัครยิงใส่บ้านพักอาศัยของชาวโรฮิงจะ ชาวบ้านคนหนึ่งเล่าเหตุการณ์ให้เจ้าหน้าที่ของ Human Rights Watch ฟังว่า เมื่อมีความรุนแรงเพิ่มขึ้นและเกิดการจลาจล ทหารบุกเข้าชุมชนชาวโรฮิงจะ ตรวจค้นบ้าน ทำร้ายชาวบ้านทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่พบ รวมทั้งเผาบ้านเรือนและร้านค้า

นาย Phil Robertson รองผู้อำนวยการเอเชียของ Human Rights Watch บอกว่า รัฐบาลพม่ามีความผิดพลาด ที่เพิกเฉยในชั้นต้น และเข้าดำเนินการเสียเอง เมื่อกองกำลังรักษาความมั่นคงเข้าควบคุมสถานการณ์และมุ่งเป้าไปที่ชาวโรฮิงจะ

มีชาวโรฮิงจะในพม่าราวๆ แปดแสนถึงหนึ่งล้านคน รัฐบาลพม่าไม่ยอมรับว่าคนเหล่านี้เป็นชนเผ่า หรือให้ถือสัญชาติพม่า ชาวพม่าจำนวนมากมองว่าชาวโรฮิงจะเป็นผู้ลักลอบเข้าเมืองจากบังคลาเทศ ในขณะที่บังคลาเทศก็ไม่ยอมรับชาวโรฮิงจะที่ขอลี้ภัยหนีความรุนแรงในพม่า

แต่เจ้าหน้าที่ของ Human Rights Watch ผู้นี้ ยังหวังว่าจะมีทางประนีประนอมกันได้ ระหว่างกลุ่มชาวพุทธกับชาวโรฮิงจะ แต่จะต้องมีการสืบสวนระบุให้ชัดเจนว่า เกิดอะไรขึ้นบ้าง และใครบ้างที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ว่าจะอยู่ฝ่ายใดก็ตาม

รายงานของ Human Rights Watch กล่าวไว้ด้วยว่า ประชาคมนานาชาติก็มีความผิดพลาดตรงที่หลงไหลไปกับพรรณาโวหารของการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในพม่า และไม่รับรู้กับปัญหาที่เกิดขึ้น
XS
SM
MD
LG