ประชาชนชาวปากีสถานต่างประสบปัญหาข้าวยากหมากแพงมาเป็นเวลานานหลายปี และในขณะที่เทศกาลถือศีลอดในเดือนรอมฎอนกำลังใกล้เข้ามา องค์กรการกุศลหลายแห่งจึงจัดบริการอาหารค่ำฟรีให้แก่ชาวปากีสถานในช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์ของชาวมุสลิม ในขณะที่ปัญหาเงินเฟ้อในปากีสถานทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น
คุณ Mohammad Amir ซึ่งเป็นผู้หนึ่งที่ใช้บริการอาหารค่ำฟรี บอกว่าตนพยายามประหยัดเงินในช่วงเดือนรอมฎอน เนื่องจากลำพังรายได้ของตนคนเดียวนั้นไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว แม้ว่าจะเป็นเรื่องน่าอายเล็กน้อยที่ต้องมานั่งรออาหารฟรีจากองค์กรการกุศลต่างๆก็ตาม
ด้านคุณ Asad Ullah ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยและใช้บริการโครงการอาหารฟรีในช่วงเดือนรอมฎอนมาหลายปีแล้ว บอกว่าเงินที่ตนอดออมค่าอาหารมาได้นั้น ตนใช้ซื้อเสื้อผ้าใหม่ให้กับลูกๆ คุณ Asad Ullah บอกว่าตนมีรายได้เดือนละประมาณ 10,00 รูปีเท่านั้น การมาทานอาหารฟรีช่วยประหยัดเงินได้ถึง 25% ทำให้ตนมีเงินออมเหลืออยู่บ้างเมื่อสิ้นสุดเดือนรอมฎอน
คุณ Abdul Razak Bhatti หนึ่งในผู้จัดโครงการเลี้ยงอาหารค่ำฟรีช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์เปิดเผยว่ามีนักธุรกิจและเศรษฐีชาวปากีสถานให้การสนับสนุนโครงการนี้อย่างเงียบๆ โดยเริ่มต้นมาตั้งแต่ 5 ปีก่อน เจ้าของโครงการผู้นี้บอกว่า ค่าอาหารและสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้เป็นเรื่องยากที่คนรายได้ต่ำจะสามารถทำงานหาเลี้ยงครอบครัวได้ โครงการนี้จึงเกิดขึ้น
แต่คุณ Tahira Abdullah นักสิทธิมนุษยชนในกรุงอิสลามาบัด เห็นต่างกันไป เธอเชื่อว่าเป็นเรื่องน่าละอายที่ปัญหาความยากจนในปากีสถานไม่ได้รับการแก้ไข แต่กลับรุนแรงยิ่งขึ้น จนทำให้คนยากจนต้องรอคอยความช่วยเหลือจากองค์กรการกุศล สำหรับเธอแล้วการเข้าคิวยาวเพื่อรออาหารค่ำฟรีในช่วงเดือนรอมฎอน ถือเป็นการทำลายศักดิ์ศรีของชาวมุสลิมเหล่านั้น
นอกจากโครงการอาหารฟรีขององค์กรการกุศลต่างๆแล้ว รัฐบาลปากีสถานเองก็มีโครงการถุงบรรเทาทุกข์ให้กับคนยากจนในช่วงเดือนศักดิ์สิทธิ์นี้เช่นกัน ซึ่งภายในถุงนั้นประกอบด้วยอาหารจำเป็นหลายอย่าง เช่น แป้ง น้ำตาล นมสด แต่นักวิจารณ์ระบุว่าโครงการดังกล่าวไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากปัญหาคอรัปชั่นภายในรัฐบาล
รายงานจากห้องข่าว VOA / เรียบเรียงโดยทรงพจน์ สุภาผล