ลิ้งค์เชื่อมต่อ

โหมโรงเอเปค - รมต.คลังสหรัฐฯ เตรียมต้อนรับรองนายกฯ จีนสัปดาห์นี้


รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน และรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ ลี่เฟิง ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2023
รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ เจเน็ต เยลเลน และรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ ลี่เฟิง ที่กรุงปักกิ่งเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2023

รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เเจเน็ต เยลเลน จะเป็นเจ้าภาพต้อนรับรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ หลีเฟิง ที่จะเดินทางมาสหรัฐฯ ในสัปดาห์นี้ ถือเป็นอีกหนึ่งกำหนดการของการเจรจาระดับสูงระหว่างสองประเทศเพื่อลดความตึงเครียด ซึ่งมีประเด็นร้อนจากเหตุการณ์ในทะเลจีนใต้ไม่นานนี้

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การเจรจาระหว่างเยลเลนและเหอจะเกิดขึ้นในวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ ก่อนการเริ่มประชุมสุดยอดของกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ เอเปค (APEC - Asia-Pacific Economic Cooperation)

ทั้งนี้ การประชุมเอเปค ที่จะเริ่มขึ้นวันที่ 12 พ.ย. ที่นครซานฟรานซิสโก โดยประธานาธิบดีสหรัฐฯ​ โจ ไบเดน และประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ถูกคาดหมายว่าจะได้เจอกัน และหากเกิดขึ้นจริง จะเป็นการพูดคุยกันครั้งเเรกระหว่างไบเดนและสีในรอบเกือบหนึ่งปี

เยลเลนระบุในบทความแสดงทัศนะผ่านสื่อวอชิงตันโพสต์ว่า "เป็นเรื่องพื้นฐานที่เราทั้งสองประเทศมีพันธกิจที่จะสร้างช่องทางติดต่อสื่อสารกันอย่างเปิดเผยและรับมือกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี รวมทั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้ความเห็นที่ไม่ลงรอยกันขยายวงกว้างเป็นความขัดเเย้ง"

"แต่เราทราบด้วยว่าความสัมพันธ์ของเราไม่สามารถจำกัดอยู่เพียงเเต่เรื่องการบริหารจัดการวิกฤตเท่านั้น"

เมื่อเดือนที่เเล้ว ประธานาธิบดีไบเดนได้หารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศของจีน หวัง อี้ ที่ทำเนียบขาวเป็นเวลาราวหนึ่งชั่วโมง และเมื่อย้อนกลับไปเมื่อเดือนมิ.ย. ประธานาธิบดีสี ได้พบกับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคนที่กรุงปักกิ่ง

กระทรวงการต่างประเทศจีนกล่าวว่า รองนายกฯ เหอจะเดินทางมาสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ 8 ถึง 12 พ.ย.

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ในการเจรจาระหว่างเยลเลนและเหอ ทั้งคู่น่าจะหารือกันเรื่องเศรษฐกิจ การค้า ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงผิดธรรมชาติ รวมทั้งมิติด้านความมั่นคงและสิทธิมนุษยชน

สำหรับประเด็นร้อนจากทะเลจีนใต้ เมื่อปลายเดือนตุลาคม แถลงการณ์จากกองบัญชาการกองทัพสหรัฐฯ ภาคพื้นอินโด-แปซิฟิก ระบุว่า เครื่องบินของจีน บินเข้าหาเครื่องบินของสหรัฐฯ ด้วยความเร็วสูง และได้บินไปด้านล่างและด้านหน้าของ B-52 ในระยะประชิด 10 ฟุต (ราว 3 เมตร) “ทำให้เครื่องบินทั้งสองเสี่ยงต่อการชนกัน” ในบริเวณดังกล่าว

  • ที่มา: เอพี
XS
SM
MD
LG