ลิ้งค์เชื่อมต่อ

"เทคโนโลยี = พัฒนา" รายงานชี้ประเทศที่มีความรู้เรื่องเทคโนโลยีมีพัฒนาการด้านเศรษฐกิจและสังคม


A screenshot from weforum.org shows an image promoting the World Economic Forum in Kigali, Rwanda. Leaders from ten African countries and 1,500 delegates expected to attend the May 11-13 meeting.
A screenshot from weforum.org shows an image promoting the World Economic Forum in Kigali, Rwanda. Leaders from ten African countries and 1,500 delegates expected to attend the May 11-13 meeting.

ช่องว่างด้านดิจิตอลระหว่างประเทศที่รวยกับจน ส่วนมากเกิดขึ้นเพราะมีช่องว่างในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ

please wait

No media source currently available

0:00 0:02:56 0:00
Direct link

รายงานจาก World Economic Forum พบว่าประเทศที่มีความรู้ด้านเทคโนโลยีมาก มีการพัฒนาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมสูง

โดยรายงานเกี่ยวกับเทคโนโลยีสารสนเทศสากลของปีนี้ชี้ว่า ประเทศสิงคโปร์ติดอันดับหนึ่งจากทั้งหมด 139 ประเทศ รายงานนี้ยังพบว่า ประเทศฟินแลนด์ สวิตเซอร์แลนด์ สวีเดน อิสราเอล สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ และอเมริกา ได้รับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการลงทุนด้านเทคโนโลยีสื่อสารและสารสนเทศสูงสุดในโลก

ประเทศเหล่านี้มีพัฒนาการมากกว่าประเทศเศรษฐกิจเกิดใหม่ถึง 33% และมากกว่าเศรษฐกิจกำลังพัฒนาถึง 100% โดยประเทศที่ได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิตอลมากที่สุดมีโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่มีคุณภาพ

Oliver Cann โฆษก World Economic Forum บอกว่า คนส่วนมากมองว่าธุรกิจระดับสากลคือสิ่งที่ผลักดันการใช้เทคโนโลยี แต่เขาเชื่อว่าผู้บริโภคคือฝ่ายผลักดันการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิตอลเป็นส่วนใหญ่ ไม่ใช่รัฐบาลหรือธุรกิจ

Silja Baller นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสและผู้เขียนรายงานนี้บอกว่า ถึงแม้ว่ายุโรปอยู่ระดับต้นๆ ในเรื่องการใช้เทคโนโลยี แต่ประเทศจากตะวันออกกลางและแถบตอนใต้ของทะเลทรายซาฮารามีพัฒนาการที่กำลังก้าวหน้าขึ้นเรื่อยๆ

เธออธิบายต่อว่า เลบานอนและแอฟริกาใต้มีความก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่รัฐบาลประเทศโคตดิวัวร์ มีการผลักดันพัฒนาการดิจิตอลอย่างมีประสิทธิภาพ และเอธิโอเปียก็มีพัฒนาการเช่นกัน

นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้ตั้งข้อสังเกตว่า แอฟริกาใต้ช่วยทำให้การใช้เทคโนโลยีสื่อสารง่ายขึ้นโดยลดภาษีการเข้าใช้อุปกรณ์ Mobile ในขณะที่ประเทศไอโวรี่โคสต์ได้พัฒนาระบบธุรกิจ ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ ในปี 2013 การเปิดธุรกิจใหม่ใช้เวลาประมาณ 32 วัน แต่ในตอนนี้ ใช้เวลาเพียงแค่ 7 วัน

รายงานนี้ยังอธิบายต่อว่า ช่องว่างด้านดิจิตอลระหว่างประเทศที่รวยกับจน ส่วนมากเกิดขึ้นเพราะมีช่องว่างในโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ เช่น บริการอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง

ผู้เขียนรายงานนี้กล่าวว่า โครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่นำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่เป็นปัจจัยหลักที่ชะลอการเจริญเติบโตในยุคดิจิตอล

XS
SM
MD
LG