ลิ้งค์เชื่อมต่อ

Worldwatch กังวลว่าปัญหาขาดแคลนน้ำทั่วโลกจะรุนแรงขึ้น


เมื่อจำนวนประชากรโลกเพิ่มขึ้น ความต้องการใช้น้ำก็เพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว สถาบัน
Worldwatch Institute เปิดเผยว่าปัญหาการขาดแคลนน้ำจะรุนแรงมากขึ้นเนื่องจากความต้องการอาหารและพลังงานที่เพิ่มขึ้น กอรปกับการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและปัญหาภาวะโลกร้อน


สถาบัน Worldwatch รายงานว่าขณะนี้มีคนหลายพันล้านคนทั่วโลกกำลังประสบปัญหาขาดเเคลนน้ำหรือมีน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการ คุณสุปรียา กุมาร โฆษกของสถาบัน Worldwatch กล่าวว่า ปัญหานี้เลวร้ายลงไปเรื่อยๆเพราะจำนวนประชากรโลกมีแต่จะเพิ่มขึ้น

คุณกุมาร แห่งสถาบัน Worldwatch กล่าวกับผู้สื่อข่าววีโอเอว่ามีคนหนึ่ง 1 พัน 2 ร้อยล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนแหล่งน้ำและอีก 1 พัน 6 ร้อยล้านคนอาศัยอยู่ในพื้นที่ขาดการลงทุนเพื่อจัดหาน้ำกินน้ำใช้แก่ประชาชนแม้จะมีแหล่งน้ำก็ตาม ตัวเลขผู้ประสบปัญหาทั้งสองประเภทนี้ถือว่าสูง เธอกล่าวว่ายิ่งประชากรเพิ่มจำนวนมากขึ้นปัญหานี้จะรุนแรงมากขึ้นจึงจำเป็นที่จะต้องหามาตรการจัดการปัญหานี้อย่างจริงจัง

คุณกุมารกล่าวว่าการขาดแคลนน้ำมีหลายประเภท อย่างเเรกเธอเรียกว่าการขาดแคลนแหล่งน้ำ ทำให้น้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้ การแบ่งปันน้ำไม่เท่าเทียมกัน ซึ่งเป็นปัญหาในตะวันออกกลาง ในจีนตอนเหนือ ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของอินเดียและในอีกหลายๆส่วนของโลกที่แห้งเเล้ง

ผู้เชี่ยวชาญแห่ง Worldwatch กล่าวว่าการขาดแคลนน้ำประเภทที่สองเกิดจากการขาดแคลนการลงทุนเพื่อพัฒนาแหล่งน้ำเพื่อนำน้ำไปให้ผู้บริโภคใช้ได้อย่างทั่วถึง เป็นปัญหาที่พบในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทวีปอาฟริกา คุณกุมารกล่าวว่ามาตรการเพื่อแก้ปัญหานี้ทำได้ในหลายระดับ ตั้งแต่ระดับท้องถิ่น ระดับชาติและระดับภาคพื้น

เธอกล่าวว่าในระดับท้องถิ่น สามารถทำได้ด้วยการลงทุนมากขึ้นในด้านการนำน้ำใช้เเล้วไปหมุนเวียนใช้ใหม่ การบำบัดน้ำเสียเพื่อนำไปใช้ในภาคการเกษตรและภาคอุตสาหกรรมอื่นๆ ส่วนในระดับชาติ สถาบัน Worldwatch แนะว่ารัฐบาลต่างๆต้องพัฒนานโยบายด้านการใช้น้ำให้ดีกว่าเดิม โดยลดหรือทบทวนความช่วยเหลือในภาคการเกษตรกรรมลง

คุณกุมารยกตัวอย่างว่าในอินเดียมีชาวนาจำนวนมากที่ได้รับความช่วยเหลือจากรัฐบาลทำให้ชาวนาสามารถใช้ไฟฟ้าฟรีได้ตลอด 24 ชั่วโมง ชาวนาจึงเปิดเครื่องสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้ตลอดเวลา จนแหล่งน้ำใต้ดินเริ่มร่อยหรอ

สถาบัน Worldwatch ชี้ว่าในระดับทั่วโลก ภาคเกษตรกรรมใช้น้ำมากที่สุดหรือ 70 เปอร์เซ็นของปริมาณน้ำที่ใช้ไปทั้งหมด อีก 19 เปอร์เซ็นต์นำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรม
อีก 11 เปอร์เซ็นต์นำไปใช้ในภาคครัวเรือน ประเทศที่ใช้น้ำมากที่สุดได้แก่ อินเดีย จีนและสหรัฐอเมริกา

แหล่งน้ำส่วนมากไม่มีขอบเขตจำกัดในด้านชายแดน แม่น้ำหลายสาย ทะเลสาปหลายแห่งต้องแบ่งปันกันใช้ระหว่างหลายๆประเทศ ทำให้เกิดความจำเป็นที่ต้องทำข้อตกลงการใช้น้ำร่วมกัน

ภาวะโลกร้อนที่ทำให้อุณหภููมิของโลกสูงขึ้นส่งผลกระทบโดยตรงต่อการขาดแคลนน้ำเนื่องจากการผกผันในปริมาณฝนที่ตกและฤดูกาล

ผู้เชี่ยวชาญแห่ง Worldwatch กล่าวว่าหากฝนไม่ตกตามฤดูกาล ผลผลิตทางการเกษตรและความมั่นคงทางอาหารจะได้รับกระทบตามมา ปริมาณน้ำจะลดลงในแม่น้ำสายต่างๆในที่ลุ่มน้ำในตะวันออกกลาง ในพื้นที่กึ่งแห้งแล้งในทวีปอเมริกาเหนือและใต้ ออสเตรเลียและอาฟริกา ในเอเชีย พื้นที่ชลประทานส่วนใหญ่จะประสบปัญหาเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของระดับน้ำในแม่น้ำ นอกจากนี้พื้นที่ลุ่มน้ำที่มีประชากรหนาแน่นอาจจะได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำจืดที่ลดลงและน้ำทะเลหนุนสูงขึ้นทำให้เกิดภาวะดินเค็ม
XS
SM
MD
LG