ลิ้งค์เชื่อมต่อ

เวียดนามเร่งพัฒนา 'เทคโนโลยีประหยัดไฟ' รองรับเศรษฐกิจขยายตัวโดยไม่สร้างผลเสียต่อสิ่งเเวดล้อม


FILE - A farmer works in a paddy field under the power lines near Nam Theun 2 dam in Khammouane province, Laos.
FILE - A farmer works in a paddy field under the power lines near Nam Theun 2 dam in Khammouane province, Laos.
please wait

No media source currently available

0:00 0:04:22 0:00

บริษัท Trilliant บริษัทซอฟแวร์สำหรับระบบจ่ายไฟฟ้า ชี้ว่าในภาพรวม ชาติต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จะต้องการใช้กระเเสไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 80 เปอร์เซ็นต์ในช่วง 20 ปีต่อจากนี้

เเต่สำหรับเวียดนาม ความต้องการใช้ไฟฟ้าจะเพิ่มขึ้นมากถึงเกือบ 200 เปอร์เซ็นต์

ผู้เกี่ยวข้องหลายคนเชื่อว่า ทางออกของปัญหาการเพิ่มขึ้นของความต้องการใช้ไฟฟ้าในเวียดนาม ทำได้ด้วยการผสมผสานเทคโนโลยี การใช้พลังงานหมุนเวียน และการใช้ไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

แต่ผู้เกี่ยวข้องอีกหลายคนกลับมองว่า ถ่านหินเป็นแหล่งพลังงานราคาถูกที่เหมาะกับ สภาพเศรษฐกิจเวียดนาม แม้ว่าจะสร้างมลภาวะก็ตาม

และเเม้เวียดนามได้เพิ่มจำนวนเงินที่จ่ายเเก่ผู้ที่ผู้ลงทุนด้านพลังงานแสงอาทิตย์เมื่อเร็วๆ นี้ ตลาดพลังงานหมุนเวียนในเวียดนามยังอยู่ในระยะเริ่มต้นเท่านั้น

เวียดนามกำลังประสบกับสถานการณ์ที่สร้างความลำบากใจ อย่างที่ประเทศกำลังพัฒนาต้องประสบ เมื่อเศรษฐกิจของประเทศที่เติบโตมักมาพร้อมกับปัญหาสิ่งเเวดล้อม

Vo Van Hoan ผู้จัดการสำนักงานของคณะกรรมการแห่งประชาชนเมืองโฮจิมินห์ กล่าวว่า "โลกกำลังอยู่ในช่วงของการปฏิรูปทางอุตสาหกรรม 4.0 ที่มีการรวมเอาเทคโนโลยีด้านไอทีเข้าไปในทุกส่วนของชีวิต"

เขากล่าวว่า ความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีนี้เป็นข่าวดี และเวียดนามได้วางเเผนที่จะพัฒนาเศรษฐกิจให้กลายเป็นประเทศอุตสาหกรรมให้สำเร็จในปี ค.ศ. 2020

แต่ข่าวร้ายคือการพัฒนาไปสู่ความเป็นชาติอุตสาหกรรมจะทำให้เกิดมลภาวะทางสิ่งเเวดล้อม การทำลายป่า การละทิ้งที่ดินทำกินเพราะขาดความอุดมสมบูรณ์ และความเสียหายอื่นๆ ที่เป็นสาเหตุของภาวะโลกร้อน

ความก้าวหน้าเทคโนโลยีไม่ได้เป็นมิตรต่อสิ่งเเวดล้อมเสมอไป เนื่องจากจะผลักดันให้มีการสร้างโรงงานอุตสาหกรรม และใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่มากขึ้นในเวียดนาม

ในทางกลับกัน เทคโนโลยีช่วยลดผลเสียของการเติบโตทางเศรษฐกิจต่อสิ่งเเวดล้อมลงได้ โดยเฉพาะในการเเก้ปัญหาอุปทานด้านพลังงาน ที่เวียดนามมองว่าเป็นสิ่งจำเป็นในการช่วยพัฒนาเศรษฐกิจและรายได้ของประเทศให้สูงขึ้น

ตัวอย่างหนึ่งของประเด็นนี้ คือการเชื่อมโยงตัวมิเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับอินเตอร์เน็ต หรือ "มิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ"

บริษัท Trilliant กับบริษัท Saigon Hi-Tech Park เพิ่งเสร็จสิ้นโครงการนำร่องไปเมื่อเดือนมีนาคม โดยได้ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะทั่วเขตการค้าและเศรษฐกิจที่มีบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Intel และ Samsung ตั้งอยู่

อุปกรณ์นี้ช่วยเตือนหน่วยงานของทางการที่เกี่ยวข้องได้ทันทีที่เกิดปัญหากระเเสไฟฟ้าขัดข้อง เพื่อให้เเก้ปัญหาอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้ระบบจ่ายไฟฟ้าทำงานอย่างราบรื่น

มิเตอร์อัจฉริยะช่วยป้องกันการแอบปรับมิเตอร์ ช่วยวัดคุณภาพการจ่ายกระเเสไฟฟ้าและสามารถจัดเก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้าได้ทุก 15 นาที เพื่อช่วยผู้ใช้วิเคราะห์การใช้ไฟฟ้าของตนได้ทันที และตัดสินใจว่าควรลดการใช้ไฟฟ้าลงอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

Nguyen Ba Quynh ผู้อำนวยการภาคการบริการสาธารณะแห่ง Microsoft Vietnam กล่าวว่า "เวียดนามกำลังเรียนรู้การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่จากบริษัทในสิงคโปร์ ในการปรับปรุงการคุณภาพชีวิตหลายด้าน รวมทั้งการลดการสร้างขยะให้เป็นศูนย์ ตลอดจนการผลิตไฟฟ้าจากขยะ อาคารต่างๆ ยังนิยมเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟประหยัดกันมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นหลอดไฟแบบ LED หรือการควบคุมการหรี่เเสงสว่างของหลอดไฟ หรือปิดไฟแบบอัตโนมัติ"

หลอดไฟแบบประหยัดและมิเตอร์ไฟฟ้าอัจฉริยะ อาจช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงทีละเล็กละน้อย แต่เมื่อพิจารณาว่าเวียดนามกำลังจะเจอกับปัญหากระะเสไฟฟ้าขาดแคลนหรือไฟดับมากขึ้นในปีหน้า เพราะความต้องการใช้ไฟฟ้าสูงกว่าปริมาณไฟฟ้าที่ผลิตได้ เวียดนามไม่มีทางเลือกเเต่ต้องทำทุกวิถีทางเท่าที่จะทำได้เพื่อแก้ปัญหานี้

(รายงานโดย Lien Hoang / เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว)

XS
SM
MD
LG