ลิ้งค์เชื่อมต่อ

นักวิเคราะห์ชี้ว่าสหรัฐน่าจะพึ่งพาน้ำมันจากภายนอกน้อยลงเรื่อยๆ ซึ่งน่าจะกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของอเมริกากับประเทศอาหรับ


นักวิเคราะห์ชี้ว่าสหรัฐน่าจะพึ่งพาน้ำมันจากภายนอกน้อยลงเรื่อยๆ โดยอาจจะไม่ต้องนำเข้าน้ำมันภายในปี ค.ศ. 2035 นอกจากนั้นสำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ International Energy Agency (IEA) พยากรณ์ว่าใน 5 ปีจากนี้ สหรัฐจะเป็นแห่งน้ำมัน 1 ใน 3 ของโลก

นอกจากผลที่จะมีต่อตลาดน้ำมันโลกแล้ว สถานการณ์ดังกล่าวน่าจะกระทบต่อนโยบายต่างประเทศของอเมริกากับประเทศอาหรับด้วย ซึ่งผู้สันทัดกรณีที่อังกฤษสองคนมองว่าน่าจะมีการปรับดุลยภาพด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศแต่ไม่น่าถึงกับพลิกผันไปจากที่เป็นอยู่ในขณะนี้

นักวิเคราะห์ John Mitchell แห่ง Chatham House ที่กรุงลอนดอนกล่าวว่า เมื่อสหรัฐไม่ต้องพึ่งพาน้ำมันจากโลกอาหรับ อเมริกาน่าจะให้ความสำคัญต่อภูมิภาคดังกล่าวน้อยลงจากที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน

Christopher Davidson นักวิชาการจาก University of Durham ที่อังกฤษเห็นเช่นเดียวกัน เขาเสริมว่ารายได้ที่น้อยลงในอนาคตของประเทศอาหรับจากการขายน้ำมันให้อเมริกาอาจทำให้ผู้นำประเทศขาดเงินไปอุดหนุนภาคประชาชน และอาจเป็นชนวนให้เกิดการลุกฮือของคนในตะวันออกกลางเพิ่มขึ้นอีกด้วย

แต่หากมองถึงการให้ความคุ้มครองด้านกลาโหมต่อโลกอาหรับแล้ว ผู้สันทัดกรณีทั้งสองคนเห็นว่าสหรัฐและประเทศตะวันตกจะยังคงมีบทบาทสำคัญต่อไปอย่างไม่มีใครแทนที่ได้

ทั้งนี้ที่สหรัฐจะมีน้ำมันมากขึ้นเป็นเพราะเทคโนโลยีการสะกัดน้ำมันจากชั้นหิน กระบวนการดังกล่าวเรียกว่า “Fracking” ซึ่งเป็นวิธีที่ประเทศในยุโรปและรัฐบางรัฐในสหรัฐไม่อนุญาตให้ทำ เนื่องจากความกังวลต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

โปรดติดตามรายละเอียดจากคลิปเรื่องนี้ในรายการข่าวสดสายตรงจากวีโอเอ

รายงานโดย Henry Ridgwell /เรียบเรียงโดยรัตพล อ่อนสนิท
XS
SM
MD
LG