ลิ้งค์เชื่อมต่อ

กองทัพเรือสหรัฐเตรียมพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานชีวภาพให้เป็นเชื้อเพลิงหลัก


US NAVY
US NAVY

กองทัพเรือสหรัฐฯกำลังมีแผนที่จะผลักดันที่จะเปลี่ยนแปลงการใช้เชื้อเพลิงในกองทัพไปเป็นเชื้อเพลงชีวภาพ

กองทัพทัพเรือสหรัฐออกแถลงการพิเศษในระหว่างการซ้อมรบ RIM Pacific ซึ่งเป็นการซ้อมรบประจำปีของกองเรือที่ประจำการแถบ 20 ประเทศในแถบมหาสมุทรแปซิฟิว่า ถึงเวลาการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของกองทัพเรือแล้ว

กองทัพเรือสหรัฐตั้งเป้าที่จะใช้เชื้อเพลิงของกองเรือที่ผลิตมาจากน้ำมันชีวภาพซึ่งเป็นพลังงานที่ยั่งยืนเช่นน้ำมันที่ผลิตจากสาหร่าย หญ้า หรือไขมันจากสัตว์ ซึ่งก่อนหน้านี้ไม่กี่เดือนกองทัพเรือได้จัดแสดงแสนยานุภาพด้วยการที่ใช้การเติมเชื้อเพลิงชีวภาพมาแล้ว

Ray Mabus รัฐมนตรีทบวงทหารเรือของสหรัฐ กล่าวว่า เหตุผลหลักที่กองทัพต้องการเปลี่ยนการใช้พลังงานจากพลังงานน้ำมันไปเป็นเชื้อเพลงชีวภาพเพื่อเป็นทางเลือกและลดจุดอ่อนของที่พึ่งพาพลังงานน้ำมันปิโตรเลียมมากเกินไป ขณะเดียวกันก็เพื่อให้มั่นใจว่ากองทัพเรือสหรัฐจะมีความมั่นคงทางพลังงานและมีอิสระด้านการใช้พลังงานภายในกองทัพมากขึ้น

เช่นเดียวกับ นายบารัค โอบามา ประธานาธิบดีสหรัฐ ที่ต้องการให้ครึ่งหนึ่งของกองเรือสหรัฐเปลี่ยนไปใช้เชื้อเพลิงชีวภาพภายใน 8 ปีข้างหน้า ซึ่งจะเป็นกองทัพเรือจะเป็นหน่วยงานหลักในการพัฒนาเทคโนโลยีเชื้อเพลิงชีวภาพก่อนจะกระจายเทคโนโลยีนี้ไปสู่ตลาดทั่วไป ซึ่งเป็นแนวทางเดียวกับการพัฒนาระบบบอกตำแหน่างดาวเทียมหรือ GPS การพัฒนาคอมพิวเตอร์ และโทรศัพท์มือถือ ที่กองทัพสหรัฐเป็นผู้พัฒนาเทคโนโลยีเหล่านี้ออกมาก่อนที่มีการนำไปใช้ในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป

ประธานาธิบดีสหรัฐ กล่าวว่า กองทัพอากาศสหรัฐตั้งเป้าที่จะปรับเปลี่ยนอากาศยานรบกว่าครึ่งหนึ่งให้ไปใช้แหล่งพลังงานทางเลือกภายใน 4 ปีข้างหน้า นอกจากนี้ยังสั่งการให้กองทัพเรือร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน และกระทรวงเกษตรของสหรัฐ ทำงานร่วมกับองค์กรเอกชนผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพขั้นก้าวหน้าที่จะสามารถเติมเชื้อเพลิงไม่เฉพาะกับเครื่องบินรบของกองทัพเท่านั้น ยังใช้ได้กับ รถบรรทุก หรือเครื่องบินพานิชของสายการบินต่างๆได้เช่นกัน แต่ปัญหาสำคัญคือราคาของเชื้อเพลิงชีวภาพในขณะนี้มีราคาสูงถึง 26 ดอลล่าสหรัฐต่อแกลลอน ขณะที่ราคาน้ำมันปกติมีราคาไม่ถึง 4 ดอลล่าห์ต่อแกลลอน ซึ่งทำให้เกิดเสียงข้อคัดค้านจากบรรดาส.ส.ในรัฐสภา ที่กล่าวว่าจะเป็นเรื่องเปล่าประโยชน์ที่จะทุ่มงบประมาณในเรื่องนี้

David Kreutzer นักวิเคราะห์ด้านพลังงานจากองค์กร Heritage Foundation บอกว่า งบประมาณมหาศาลที่จะใช้ในโครงการเชื้อเพลิงชีวภาพควรจะนำไปใช้ในการพัฒนาและปฏิบัติการของกองทัพมากกว่า ขณะที่พลังงานดังกล่าวไม่ได้มาจากการกลั่นซึ่งคุณภาพของน้ำมันจะต่ำกว่าน้ำมันปิโตรเลียม ที่น่าจะคุ้มค่าหากจะจัดซื้อจากภายในประเทศเพื่อจะใช้กิจการของกองทัพ ขณะที่เชื้อเพลิงชีวภาพควรจะเก็บไว้ใช้ในส่วนของอุปกรณ์การทำงาน หรือ อะไหล่ต่างๆ และใช้เป็นส่วนบุคคลเท่านั้น

แม้ว่าการทดลองเดินเรือ U.S.S Makin Island เรือสะเทิ้นน้ำสะเทินบกแบบไฮบริดลำแรกของกองทัพที่ใช้เชื้อเพลงชีวภาพ เช่นเดียวกับการแสดงบินโชว์ผาดแผลงของเครื่องบินรบ Blue Angel เติมด้วยน้ำมันที่ของกองทัพเรือสหรัฐที่ชีวภาพจะแสดงให้เห็นถึงความสำเร็จด้วยดีของโครงการนี้ แต่หากรัฐสภาไม่ด้วยก็อาจจะต้องพับเก็บเอาไว้ก่อนจนกว่าจะได้รับการพิจารณาอีกครั้ง

พินิจการณ ตุลาชม วีโอเอภาคภาษาไทย กรุงวอชิงตัน
XS
SM
MD
LG