ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การเปลี่ยนแปลงทางวัฒนธรรมของสังคมอเมริกันจากครอบครัวเดี่ยวไปเป็นครอบครัวขยาย ส่งผลกระทบต่อตลาดบ้านในสหรัฐ


ปัจจุบัน แนวโน้มการสร้างบ้านและลักษณะบ้านในอเมริกากำลังเปลี่ยนแปลงไป ผู้ที่กำลังจะสร้างบ้านหรือกำลังจะซื้อบ้านจำนวนมากต่างมองหาบ้านขนาดใหญ่กว่าเดิมหรือมีห้องหับมากกว่าเดิม เพื่อรองรับครอบครัวขยาย

เวลานี้หากเปิดเข้าไปในบ้านที่สร้างขึ้นใหม่ในอเมริกา เราอาจจะแปลกใจที่มีห้องหับมากมาย บางบ้านมีครัว 2 แห่ง มีห้องรับแขกห้องที่ 2 หรือ 3 หรือมีห้องน้ำห้องนอนพิเศษเพิ่มขึ้นมา ซึ่งเรียกกันว่า Mother-in-law-suite หรือห้องแม่ยาย เพื่อรองรับสมาชิกครอบครัวที่มีจำนวนเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจจะหมายถึงปู่ย่าตายายคนใดคนหนึ่งที่ต้องการกลับมาอยู่กับลูกหลานของตน เมื่อคู่ชีวิตจากไป คุณ Emile Haddad นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ระบุว่าเมื่อคนรุ่นเบบี้บูมบางส่วนเริ่มจากไป บรรดาลูกหลานก็ต้องการให้คนที่ยังอยู่ย้ายเข้ามาอยู่ด้วยกัน แทนที่จะไปอยู่บ้านพักคนชรา

รายงานสำรวจของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ Pulte Group ชี้ว่ามีเจ้าของบ้านในอเมริกาจำนวนมากขึ้นที่ต้องการให้สมาชิกครอบครัวมาอยู่ภายใต้ชายคาเดียวกัน คุณ Kristin Pasternak แห่ง Pulte Group เชื่อว่าเริ่มมีการปรับเปลี่ยนวัฒนาธรรมในหมู่คนอเมริกันไปเป็นครอบครัวขยาย หรือหลายครอบครัวอยู่ในบ้านเดียวกัน ดังนั้นบ้านแบบใหม่ๆจึงมีแนวโน้มรองรับความต้องการของคนกลุ่มนี้มากขึ้น

ด้านศาสตราจารย์ Victor Regnier แห่งภาควิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ University of Southern California ชี้ว่าปัญหาเศรษฐกิจคือเหตุผลสำคัญที่ทำให้สมาชิกครอบครัวกลับมาอยู่รวมกัน เนื่องจากวิกฤติเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นเมื่อปี ค.ศ 2008 ทำให้หลาบครอบครัวสูญเสียความมั่นคงทางการเงิน หรืออาจต้องขายบ้านแล้วย้ายไปอยู่กับญาติสนิท นำไปสู่การซอยห้องในบ้านเดี่ยวออกเป็นส่วนต่างๆเพื่อรองรับครอบครัวขยาย

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจสำมะโนประชากรสหรัฐแสดงให้เห็นว่า ครอบครัวที่มีสมาชิก 3 รุ่นขึ้นไป คือตั้งแต่รุนปู่ย่าตายายถึงรุ่นหลานอยู่รวมในบ้านเดียวกันกำลังมีจำวนวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรเชื้อสายละตินอเมริกัน อาฟริกัน-อเมริกัน และเอเชี่ยน-อเมริกัน ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นในสังคมอเมริกัน

รายงานจาก Elizabeth Lee / เรียบเรียงโดย ทรงพจน์ สุภาผล
XS
SM
MD
LG