ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ประเด็นสำคัญในกรุงวอชิงตันเปลี่ยนจากภาระหนี้สินและงบประมาณขาดดุลเพราะเศรษฐกิจฟื้นตัว


The stars and stripes with dollar bills of the USA/goverment ad
The stars and stripes with dollar bills of the USA/goverment ad
บรรยากาศเรื่องการเงินและการขาดดุลงบประมาณของรัฐบาลสหรัฐ ดูจะเปลี่ยนไปในเวลานี้ หลังจากที่สำนักงบประมาณของรัฐสภา กล่าวว่า การขาดดุลฯของรัฐบาลในปีนี้จะลดลงไปอยู่ที่ 642 พันล้านดอลล่าร์ ซึ่งนับว่าต่ำสุดในช่วงห้าปีมานี้ และยังจะลดลงต่อไปอีกในช่วงสองปีข้างหน้าด้วย

เหตุผลสำคัญส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว คือเศรษฐกิจของสหรัฐเริ่มฟื้นตัวได้แล้วอย่างจริงจัง และผลที่ตามมาก็คือ รัฐบาลมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษี ซึ่ง James Glassman นักเศรษฐศาสตร์อาวุโสของ JP Morgan Chase ธนาคารการลงทุนรายใหญ่ที่สุดของสหรัฐ บอกกับ VOA ว่า เป็นผลมาจากมาตรการที่รัฐสภานำมาใช้

มาตรการดังกล่าวรวมถึงการปล่อยให้อัตราภาษีการประกันสังคมกลับเพิ่มขึ้นสองเปอร์เซ็นต์ การลดการใช้จ่ายของรัฐบาลโดยอัตโนมัติ หรือ Sequestration ในขณะที่เศรษฐกิจกำลังฟื้นตัว ซึ่งทำให้การขาดดุลฯลดลง

แต่ศจ. Patrick Socci คณบดีคณะพาณิชยศาสตร์ของมหาวิทยาลัย Hofstra ในนครนิวยอร์ค บอกกับ VOA ว่า ในขณะเดียวกัน มีเรื่องที่บ่ายเบนความสนใจของรัฐสภาไปจากความวิตกกังวลกับการใช้จ่ายและภาระหนี้สินของประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการทำงานของสำนักงานสรรพากรที่ถูกกล่าวหาว่า เพ่งเป้าการตรวจสอบไปที่กลุ่มอนุรักษ์นิยมที่ยื่นเรื่องขอยกเว้นภาษี ทำให้ความสนใจที่จะปรึกษาหารือในเรื่องการจัดทำงบประมาณให้สมดุล และการเพิ่มเพดานหนี้ ลดความเร่งด่วนลงไปมาก

อย่างไรก็ตาม James Glassman กล่าวเตือนว่า ภาพไม่สดใสในระยะยาว เพราะค่าใช้จ่ายในโครงการประกันสุขภาพผู้สูงอายุของประเทศเพิ่มขึ้นอยู่ตลอดเวลา และสำนักงบประมาณของรัฐสภาบอกว่า ถ้าไม่แก้ไขเรื่องนี้ให้ได้ การขาดดุลฯจะกลับไปเพิ่มอีกอย่างแน่นอน
XS
SM
MD
LG