ลิ้งค์เชื่อมต่อ

การศึกษาอเมริกันมิได้ช่วยสนับสนุนเด็กกลุ่มที่เรียนเก่งที่สุด


การศึกษาอเมริกันมิได้ช่วยสนับสนุนเด็กกลุ่มที่เรียนเก่งที่สุด
การศึกษาอเมริกันมิได้ช่วยสนับสนุนเด็กกลุ่มที่เรียนเก่งที่สุด

รายงานชิ้นใหม่ของคณะที่ปรึกษาด้านการศึกษาของรัฐบาลสหรัฐ ระบุว่าระบบการศึกษาอเมริกันในปัจจุบันไม่ได้ช่วยให้เด็กกลุ่มที่เรียนเก่งที่สุด ฉลาดที่สุด พัฒนาก้าวหน้าในการศึกษาได้อย่างที่ควรจะเป็น

ประธานาธิบดีสหรัฐ นายบารัค โอบาม่า กล่าวเมื่อไม่กี่วันก่อนเนื่องในโอกาสเปิดภาคเรียนใหม่ เน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาที่มีผลต่อความสำเร็จของตัวเด็กเองและต่อประเทศชาติ โดยชี้ให้เห็นว่าปัจจุบันนักเรียนในหลายประเทศทั่วโลกต่างกำลังเรียนหนักกว่าเดิม และเก่งกว่าเดิม

ในรายงานเรื่องการศึกษาของคณะกรรมการวิทยาศาสตร์แห่งชาติ ว่าด้วยเรื่องการเตรียมคนรุ่นใหม่สำหรับการคิดค้นพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์และคณิตศาสตร์ หรือที่เรียกว่า STEM ระบุไว้ถึงความสำคัญและปัญหาของระบบการศึกษาอเมริกัน คุณ Camilla Benbow คณบดีฝ่ายการศึกษาของมหาวิทยาลัย Vanderbilt ผู้ร่วมเขียนรายงานชิ้นนี้ กล่าวว่าการอบรมบ่มเพาะนักประดิษฐ์คิดค้นคือส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศให้สามารถแข่งขันในเศรษฐกิจโลกซึ่งขับดันด้วยความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก อย่างไรก็ตาม เด็กนักเรียนอเมริกันกลุ่มที่ฉลาดที่สุดจำนวนมากยังคงถูกมองข้าม ไม่ได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควรจะเป็น ทำให้สูญเสียโอกาสและความสามารถไปอย่างน่าเสียดาย

คุณ Benbow เห็นขัดแย้งกับคนส่วนใหญ่ที่มักมองว่า ความฉลาดนั้นเป็นเรื่องของพรสวรรค์ เธอเชื่อว่าความคิดแบบสร้างสรรค์สามารถพัฒนาขึ้นได้ด้วยการศึกษาที่ดี แต่จะทำให้เกิดขึ้นได้จริงนั้นต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ที่สำคัญคือต้องมีการปรับเปลี่ยนทัศนคติในเรื่องนี้ให้ได้เสียก่อน คุณ Benbow อ้างอิงรายงานชิ้นหนึ่งระบุว่า 72% ของเด็กอเมริกันชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนเก่งที่สุดมาจากครอบครัวรายได้สูง นั่นหมายความว่ามีเพียง 28% ที่มาจากครอบครัวรายได้ต่ำ

คณบดีฝ่ายการศึกษาผู้นี้บอกว่านั่นเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ ในขณะที่รายงานของมูลนิธิ Jack Kent Cooke ชี้ว่า ในแต่ละปีมีเด็กอเมริกันสูญเสียโอกาสทางการศึกษาราว 2 แสนคน คุณ Camilla Benbow กล่าวว่าโรงเรียนแต่ละแห่งควรรับผิดชอบต่อความก้าวหน้าทางการศึกษาของเด็กทุกคน ซึ่งรวมถึงการใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อช่วยให้เด็กที่เรียนเก่งสามารถข้ามหลักสูตรไปยังระดับสูงกว่าได้ เธอเชื่อว่าการสนับสนุนให้เด็กที่เรียนเก่งข้ามไปเรียนหลักสูตรขึ้นได้นั้น นอกจากจะช่วยให้เด็กไม่เบื่อแล้ว ยังช่วยกระตุ้นไฟในการเรียนรู้ของเด็กเหล่านั้นให้ลุกโชนอยู่เสมอด้วย

ผู้เชี่ยวชาญด้านการศึกษาผู้นี้ยังมีคำแนะนำ 3 ข้อเพื่อสร้างนักประดิษฐ์คิดค้นในอนาคตไว้ด้วย หนึ่ง คือการสร้างความท้าทายด้วยหลักสูตรและโอกาสใหม่ๆให้แก่เด็กฉลาด สองคือโรงเรียนต่างๆควรเลือกเด็กฉลาดที่สุดกลุ่มหนึ่งมาอบรมบ่มเพาะ โดยไม่คำนึงถึงเพศ เชื้อชาติ สีผิวหรือฐานะทางเศรษฐกิจ แต่มุ่งเน้นที่ความหลากหลายและความเสมอภาคเป็นหลัก และสาม ทุกโรงเรียนควรสร้างสิ่งแวดล้อมที่สนับสนุนการเรียนรู้และให้รางวัลแก่การประดิษฐ์สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ซึ่งทั้งสามข้อนี้จะเป็นจริงได้ คุณ Benbow เชื่อว่าต้องมีการทุ่มเททำงานหนักจากหลายฝ่าย รวมทั้งผู้วางนโยบายด้านการศึกษาด้วย

XS
SM
MD
LG