ลิ้งค์เชื่อมต่อ

รัสเซียอ้างส่งทหารเข้าไปในแคว้น Crimea เพื่อปกป้องพลเมืองรัสเซียจากความวุ่นวายทางการเมืองในยูเครน


รมต.ต่างประเทศของรัสเซีย Sergei Lavrov กล่าวปกป้องการตัดสินใจของรัสเซียที่ส่งกำลังทหารเข้าไปในยูเครน ก่อนการประชุมหารือทวิภาคีกับเลขาธิการสหประชาชาติ Ban Ki-Moon ที่นครเจนีวาในวันจันทร์

รมต.ต่างประเทศของรัสเซีย Sergei Lavrov กล่าวปราศรัยต่อที่ประชุมสภาสิทธิมนุษยชนสหประชาชาติที่นครเจนีวาในวันจันทร์ว่า การที่รัสเซียส่งทหารเข้าไปในแคว้น Crimea ของยูเครนนั้น เป็นการปกป้องพลเมืองรัสเซียที่อยู่ในยูเครนและป้องกันการละเมิดสิทธิมนุษยชน และว่าผู้ที่พยายามบิดเบือนการกระทำของรัสเซียว่าเป็นการคุกคาม และยังขู่ว่าจะใช้มาตรการลงโทษและคว่ำบาตร คือกลุ่มเดียวกับผู้ที่สนับสนุนให้เกิดความวุ่นวายทางการเมืองในยูเครน รัสเซียจึงขอให้กลุ่มดังกล่าวแสดงความรับผิดชอบด้วยการผลัดประเด็นทางการเมืองออกไป แล้วทำเพื่อประชาชนยูเครนอย่างแท้จริง

รมต. Sergei Lavrov กล่าวว่าภายใต้สถานการณ์ความวุ่นวายในยูเครน ผู้นำรัฐบาลแคว้น Crimea ได้ขอให้ ปธน.ของรัสเซียยื่นมือเข้าช่วยเพื่อสร้างสันติภาพใน Crimea อีกครั้ง ซึ่งคำขอของ Crimea นั้นเป็นไปอย่างถูกต้องตามกฏหมายรัสเซีย สภาสหพันธ์รัสเซียจึงมีมติอนุญาตให้รัสเซียส่งทหารเข้าไปในแคว้น Crimea ได้

รมต.ต่างประเทศของรัสเซียชี้แจงด้วยว่าตนได้สนทนาทางโทรศัพท์กับ รมต.ต่างประเทศของจีนในเรื่องนี้แล้ว ซึ่งทางโฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน Qin Gang มีคำแถลงในวันจันทร์ ขอให้มีการแก้ปัญหาด้วยวิธีทางการฑูต ไม่ใช่การทหาร และว่าจีนเข้าใจดีถึงปมปัญหาและความซับซ้อนของสถานการณ์ในยูเครน ซึ่งจีนขอให้ทุกฝ่ายใช้การเจรจาและหาทางออกทางการเมืองให้ได้ เพื่อป้องกันความรุนแรง และเพื่อสันติภาพในภูมิภาคนี้

ทางด้านเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ Ban Ki-Moon ได้ขอให้รัสเซียเร่งบรรเทาความตึงเครียดในยูเครน เคารพในเสรีภาพ เอกภาพและอธิปไตยเหนือพรมแดนของยูเครน นาย Ban Ki-Moon ยังขอให้รัสเซียใช้ความอดทนอดกลั้นจากการกระทำใดๆที่จะยิ่งทำให้สถานการณ์ในยูเครนเลวร้ายไปกว่านี้ และว่าขณะนี้ถึงเวลาแล้วที่ต้องร่วมมือกันสร้างสันติภาพในยูเครนผ่านการเจรจา
ด้านผู้นำประเทศกลุ่ม G7 ได้แก่สหรัฐ อังกฤษ แคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลีและญี่ปุ่น มีแถลงการณ์ร่วม เรียกร้องให้รัสเซียจัดการแก้ปัญหาขัดแย้งกับยูเครนด้วยสันติวิธี ได้แก่การเจรจาโดยตรง หรือให้สหประชาชาติหรือองค์กรเพื่อความร่วมมือและความมั่นคงในยุโรป (OSCE) เป็นตัวกลางไกล่เกลี่ยเรื่องนี้

รายงานจากห้องข่าว VOA / เรียบเรียงโดย Songphot Suphaphon
XS
SM
MD
LG