ในคืนวันพุธตามเวลาสหรัฐฯ ตัวเเทนนักการเมืองที่ต้องการเเข่งเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในนามของพรรครีพับลิกัน จะขึ้นเวทีดีเบตที่นครมิลวอกี้ รัฐวิสคอนซิน
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ตัวเต็งในโพลล์ที่หยั่งเสียงความนิยมของชาวรีพับลิกัน ได้รับสิทธิ์ร่วมการเเสดงวิสัยทัศน์ในครั้งนี้ด้วย แต่เขาขอไม่ไปปรากฏตัวที่งานดังกล่าว
สำหรับคู่เเข่งของเขาคนอื่น ๆ ส่วนใหญ่แล้วจะสงวนท่าทีในการวิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์ จำนวนนี้ประกอบด้วยผู้ว่าการรัฐฟลอริดา รอน เดอซานทิส ผู้ได้รับความนิยมอันดับสองแต่ยังถูกทรัมป์ทิ้งห่างอย่างมากในโพลล์
และยังมี อดีตผู้ว่าการรัฐเซาท์แคโรไลนา นิคกิ เฮลีย์ และ ไมค์ เพนซ์ อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วงที่ทรัมป์เป็นผู้นำประเทศ
ขณะนี้เพนซ์ ยังมีคะเเนนนิยมเป็นเลขหลักเดียวในผลสำรวจความนิยมในหมู่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งที่ลงทะเบียนสนับสนุนรีพับลิกัน
ตัวเเทนพรรคคนอื่น ๆ ที่มีสิทธิ์ร่วมดีเบตซึ่งจะดำเนินรายการโดยสถานีโทรทัศน์ฟอกส์ นิวส์ ได้เเก่นักธุรกิจจากรัฐโอไฮโอ วิเวค รามาชวามี วุฒิสมาชิกจากรัฐเซาท์แคโรไลนา ทิม สกอตต์ ผู้ว่าการรัฐนอร์ธดาโกตา ดัก บอร์กัมและอดีตผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอ อาซา ฮัตชินสัน
ทรัมป์โพสต์ลงโซเชียลมีเดีย Truth Social ของตนเมื่อวันอาทิตย์ว่า เขามีคะเเนนนำโด่งในโพลล์อยู่แล้ว และว่าคนทราบดีถึงผลงานของเขาในช่วงที่เป็นประธานาธธิบดีดังนั้นจึงจะไม่ร่วมขึ้นเวทีแสดงวิสัยทัศน์ ซึ่งถูกมองว่าน่าจะรวมถึงดีเบตที่รัฐวิสคอนซินในวันพุธ และที่รัฐแคลิฟอร์เนียในเดือนหน้าด้วย
คู่แข่งจากพรรครีพับลิกันที่วิพากษ์วิจารณ์ทรัมป์มากที่สุดคนหนึ่งคือ อดีตผู้ว่าการรัฐนิวเจอร์ซีย์ คริส คริสตี
เมื่อวันศุกร์เขาเขียนลงเเพลตฟอร์ม X หรือทวิตเตอร์ในอดีตว่า ทรัมป์ซึ่งต้องข้อหากระทำผิดในสี่คดีปฏิเสธที่จะร่วมดีเบตเพราะ "กลัว" และ "ขี้ขลาด" ทั้งยังเรียกทรัมป์ว่า "คนขี้แพ้"
ทั้งนี้ ทรัมป์ยังไม่ลงนามให้คำมั่นกับคณะกรรมการแห่งชาติของพรรครีพับลิกัน ว่า ใครก็ตามที่เเพ้การเลือกตั้งภายในพรรคจะต้องสนับสนุนผู้ชนะ ซึ่งข้อนี้เป็นหนึ่งในเงื่อนไขสำหรับผู้ร่วมดีเบต
สาเหตุที่ทรัมป์น่าจะถูกพูดถึงแม้จะไม่ขึ้นเวทีในวันพุธ ก็เพราะว่า เป็นเรื่องยากที่จะเลี่ยงหัวข้อที่เกี่ยวกับเขาเมื่อพูดถึงการเลือกตั้ง โดยเฉพาะหากพิจารณาว่า เขาต้องสู้กับจำนวนข้อกล่าวหาว่ากระทำผิดกว่า 90 กระทง ที่โจทก์ระบุว่าเกิดขึ้นก่อน และหลัง รวมทั้งระหว่างการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ
อาจารย์สตีเฟน ฟาร์นสเวิร์ธ ที่สอนด้านรัฐศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย University of Mary Washington กล่าวว่าบรรยากาศแบบนี้ยากต่อพรรครีพับลิกันที่จะพูดถึงแนวทางและมุมมองความคิดในเรื่อสำคัญอันดับต้น ๆ เช่น เศรษฐกิจ สงครามยูเครน และนโยบายคนเข้าเมือง
เขากล่าวว่าผู้คนจะยังคงถามถึงทรัมป์ แม้ว่าเรื่องเชิงนโยบายเป็นหัวข้อที่นักการเมืองรีพับลิกันต้องการเเสดงวิสัยทัศน์
สำหรับผู้ที่จะขึ้นเวทีดีเบต จอร์แดน ทามา ผู้บริหารและนักวิชาการแห่งคณะความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของ American University กล่าวว่า พวกเขาอาจจะมีจังหวะสร้างกระเเสไวรัลเชิงบวก หรืออาจจะไม่ตั้งใจสร้างกระเเสด้านลบบนเวทีโต้อภิปรายครั้งนี้เช่นกัน
ในบรรดาผู้ที่ถูกจับตามองว่าจะสร้างกระเเสไวรัลได้หรือไม่จากดีเบตที่วิสคอนซิน คือรอน เดอซานทิส ที่มีคะเนนนิยมในทิศทางขาลง โดยในบางครั้วผลโพลล์ชี้ว่าเขามีความนิยมในระดับเท่า ๆ กันกับหรือถูกแซงโดย นักธุรกิจจากรัฐโอไฮโอ วิเวค รามาชวามี
อาจารย์ฟาร์นสเวิร์ธกล่าวว่า ครั้งนี้คือโอกาสของเดอซานทิสที่จะสร้างความน่าประทับใจให้แก่ชาวอเมริกันทั่วประเทศ "ถ้ามันไม่เกิดขึ้น เขาจะไม่สามารถเปลี่ยนพลวัตรของการเเข่งขันได้อย่างมีนัยสำคัญ" ฟาร์นสเวิร์ธระบุ
หนึ่งในคำถามสำคัญที่พิธีกรจากฟอกซ์ นิวส์ต่อนักการเมืองรีพับลิกันที่การดีเบตครั้งนี้ น่าจะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถในการเป็นผู้นำประเทศ โดยเปรียบเทียบกับประธานาธิบดีคนปัจจุบันโจ ไบเดน วัย 80 ปี ซึ่งเขาจะชิงตำแหน่งอีกสมัยหนึ่ง
- ที่มา: วีโอเอ