ลิ้งค์เชื่อมต่อ

จับตาอาณาจักรธุรกิจของว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กับปัญหาเรื่อง 'ผลประโยชน์ทับซ้อน' !!


Traffic passes Trump Tower in New York, Nov. 21, 2016.
Traffic passes Trump Tower in New York, Nov. 21, 2016.

โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศจะมอบให้บุตรธิดาดูแลธุรกิจแทน แต่ผู้เชี่ยวชาญชี้วิธีดังกล่าวไม่จัดว่าเป็น Blind Trust

please wait

No media source currently available

0:00 0:04:48 0:00

ในอีกไม่กี่สัปดาห์ นายโดนัลด์ ทรัมป์ มหาเศรษฐีอสังหาริมทรัพย์วัย 70 ปี จะเข้ารับตำแหน่งผู้นำอำนาจฝ่ายบริหารของสหรัฐฯ และจะเป็นประธานาธิบดีซึ่งร่ำรวยที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกัน

เขาได้ประกาศว่าจะมอบให้บุตรธิดาสามคนรวมทั้งผู้บริหารคนอื่นๆ เป็นผู้ดูแลและตัดสินใจทางธุรกิจแทนตน สำหรับอาณาจักรธุรกิจทรัมป์ และเรียกการมอบหมายเรื่องนี้ว่า "Blind Trust"

อย่างไรก็ตาม ผู้เชี่ยวชาญด้านการบริหารและการเงินชี้ว่า วิธีดังกล่าวไม่สามารถเรียกว่า Blind Trust ได้

เพราะ Blind Trust ที่แท้จริงหมายถึงการมอบให้คณะบุคคลที่เป็นอิสระเป็นผู้ควบคุมดูแลและตัดสินใจในการบริหารทรัพย์สินแทน โดยมีอำนาจอิสระในการบริหารและตัดสินใจซื้อและขายทรัพย์สินอย่างแท้จริง โดยปราศจากการรับรู้และอิทธิพลแทรกแซง

และถึงแม้ขณะนี้สหรัฐฯ จะไม่มีกฎหมายเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนที่จะบังคับใช้กับประธานาธิบดีก็ตาม แต่เท่าที่ผ่านมาประธานาธิบดีสหรัฐฯ หลายคน ซึ่งแม้จะไม่ร่ำรวยเท่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านจริยธรรมดังกล่าวอย่างเคร่งครัด

This combination of pictures created on Nov. 11, 2016 shows (From L to R) recent portraits President-elect children Eric Trump, Donald Trump Jr, Ivanka Trump and her husband Jared Kushner.
This combination of pictures created on Nov. 11, 2016 shows (From L to R) recent portraits President-elect children Eric Trump, Donald Trump Jr, Ivanka Trump and her husband Jared Kushner.

นาย Richard Painter ที่ปรึกษาด้านจริยธรรมสมัยรัฐบาลประธานาธิบดี George W. Bush ชี้ว่า หากนายโดนัลด์ ทรัมป์ ไม่นำทรัพย์สินของตนใส่ไว้ใน Blind Trust อย่างแท้จริง เขาก็จะพบปัญหาเรื่องความขัดแย้งด้านผลประโยชน์จากการทำหน้าที่ในฐานะประธานาธิบดี และผลกระทบต่อธุรกิจของตนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

และอาจสร้างปัญหาด้านกฎหมายขึ้นด้วย เพราะกฎหมายของสหรัฐฯ ห้ามรัฐบาลต่างชาติจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาล

แต่หากธนาคารของรัฐบาลต่างชาติออกเงินกู้ให้กับธุรกิจของนายโดนัลด์ ทรัมป์ เรื่องนี้ก็จะสร้างปัญหากฎหมายขึ้นได้

ส่วนนาง Karen Hobert Flynn ผู้อำนวยการของ Common Cause ก็เตือนว่า ประเด็นคำถามเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนจะตามติดทุกย่างก้าวของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์หากไม่มีการจัดการโอนทรัพย์สินเข้าไว้ใน Blind Trust อย่างถูกต้องเหมาะสม

เพราะในการหารือกับผู้นำของประเทศที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีธุรกิจอยู่นั้น อาจเป็นเรื่องยากที่จะแยกแยะว่า อะไรเป็นผลประโยชน์ของชาติ? และอะไรคือผลประโยชน์ทางธุรกิจของตน?


XS
SM
MD
LG