ข้อมูลจากสำนักงานบรรยากาศและมหาสมุทรของสหรัฐระบุว่า ปกติแล้วพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรงที่ทำให้เกิดการหมุนเหวี่ยงของอากาศซึ่งเรียกว่า Supercells นั้นมักจะก่อตัวเป็นพายุทอร์นาโดซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักแก่ชีวิตและทรัพย์สิน แต่มีบ่อยครั้งที่ Supercells จะไม่ก่อให้เกิดพายุทอร์นาโด แต่อาจทำให้เกิดฝนลูกเห็บ ลมกรรโชกแรง ฟ้าแลบฟ้าร้องและน้ำท่วมฉับพลัน ซึ่งอาจกินเวลานานหลายชั่วโมง
พายุทอร์นาโดนั้นอาจเกิดขึ้นเป็นเวลาเพียงไม่กี่วินาทีไปจนถึงนานนับชั่วโมง แต่พายุทอร์นาโดส่วนใหญ่จะสลายตัวในเวลาไม่ถึง 10 นาที ประเมินกันว่าแต่ละปีจะเกิดพายุทอร์นาโดในสหรัฐราว 1,300 ครั้ง อย่างไรก็ตามตัวเลขเฉลี่ยที่แท้จริงยังประมาณได้ยากเนื่องจากความผิดพลาดในการบันทึกสถิติ ความไม่ชัดเจนในการแบ่งประเภทพายุและการสำรวจที่ตกหล่น
พายุทอร์นาโดส่วนใหญ่ในสหรัฐเคลื่อนตัวจากภาคตะวันตกเฉียงใต้ไปทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือจากตะวันตกไปตะวันออก แต่มีพายุทอร์นาโดบางลูกที่อาจเปลี่ยนทิศทางหรือสลับด้านจากตะวันออกไปตะวันตก สำหรับการพยากรณ์โอกาสเกิดทอร์นาโดนั้นสามารถทำได้ล่วงหน้า 1-2 วัน โดยผู้พยากรณ์ใช้วิธีตรวจสอบระดับอุณหภูมิและลักษณะลมซึ่งอาจก่อให้เกิดความชื้น ความแปรปรวน การยกตัวและการเปลี่ยนแปลงความเร็วหรือทิศทางลมอย่างฉับพลันซึ่งมีผลให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองและพายุทอร์นาโดในที่สุด
ในขณะเดียวกันนักอุตุนิยมวิทยาระบุว่าปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เรียกว่าลานิญญ่า ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุของอุทกภัยครั้งใหญ่และสภาพแห้งแล้งในหลายส่วนของโลกในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมานั้น กำลังเบาบางหรือจะสิ้นสุดลงแล้ว
องค์การอุตุนิยมวิทยาโลกในนครเจนีวามีแถลงการณ์วันนี้ว่าปรากฏการณ์ลานิญญ่า ซึ่งก่อให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วมและพายุไต้ฝุ่นในออสเตรเลีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทยและบางส่วนของทวีปอเมริกา ตลอดจนภัยแล้งในบางส่วนของเอเชีย อาฟริกาและอเมริกาใต้ มีแนวโน้มเบาบางลงและอาจจะไม่เกิดขึ้นอีกตลอดปีนี้
ปรากฏการณ์ลานิญญ่านั้นเกิดจากการที่ระดับอุณหภูมิผิวน้ำในมหาสมุทรแปซิฟิกเย็นกว่าปกติซึ่งตรงข้ามกับการเกิดปรากฏการณ์เอลนิญโญ่ แต่ทั้งสองเหตุการณ์สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อสภาพภูมิอากาศทั่วโลกได้เช่นเดียวกัน นักวิทยาศาสตร์ระบุว่าการเกิดลานิญญ่าหรือเอลนิญโญ่แต่ละครั้งจะกินเวลาราว 9 เดือน และมีแนวโน้มเกิดขึ้นทุกๆ 3-5 ปี
