ลิ้งค์เชื่อมต่อ

ของเล่นยอดนิยมตลอดกาล ตั้งแต่ห่วง Hula Hoop ขดลวดสปริงเดินได้ หรือ Slinky ตุ๊กตา Cabbage Patch Doll ไปจนถึงตุ๊กตา Barbie


ของเล่นยอดนิยมตลอดกาล ตั้งแต่ห่วง Hula Hoop ขดลวดสปริงเดินได้ หรือ Slinky ตุ๊กตา Cabbage Patch Doll ไปจนถึงตุ๊กตา Barbie
ของเล่นยอดนิยมตลอดกาล ตั้งแต่ห่วง Hula Hoop ขดลวดสปริงเดินได้ หรือ Slinky ตุ๊กตา Cabbage Patch Doll ไปจนถึงตุ๊กตา Barbie

หลายคนอาจจะจำห่วง Hula Hoop ซึ่งมีออกมาให้เล่นกันเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1957 ภายในสี่เดือนแรกของปี 1958 บริษัท Wham-O-Toy ผู้ผลิต ขาย Hula Hoop ได้ 25 ล้านห่วง เพิ่มเป็น 100 ล้านภายในเวลาสองปีต่อจากนั้น

และในปี ค.ศ. 1999 Hula Hoop ได้เข้าหอเกียรติคุณของเล่น หรือ Toy Hall of Fame

และหลายคนอาจจะจำ Slinky ตัวประกอบในภาพยนตร์ animation เรื่อง “Toy Story” ได้ Slinky คือขดลวดสปริงที่เดินได้ และมีคนเห็นโดยบังเอิญในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง Slinky กลายมาเป็นส่วนประกอบของเล่นเมื่อ 60 ปีหลังจากนั้น จนถึงบัดนี้ ผู้ผลิตขาย Slinky ได้แล้วกว่า 300 ล้านชิ้น ไม่เป็นที่ทราบว่า Slinky ได้ค่าตัวมากน้อยแค่ไหนสำหรับการแสดงภาพยนตร์

แต่ของเล่นที่เด็กๆร้องขอบิดามารดากันมากในช่วงคริสต์มาสปี ค.ศ. 1975 คือ Pet Rock ผ็คิดค้น ซึ่งเป็นนักโฆษณา สารภาพว่า คิดสร้าง Pet Rock ขึ้นมาในระหว่างนั่งดื่มสุรากับเพื่อนฝูง ในช่วงหกเดือนแรก เขาขายของเล่นชิ้นนี้ได้เป็นมูลค่ากว่า 15 ล้านดอลล่าร์

ถ้าสงสัยว่า Pet Rock นี่คืออะไร เท่าที่ได้พบเห็น Pet Rock คือหินก้อนเล็กๆก้อนหนึ่งที่มีตราประทับไว้ที่กล่องบรรจุว่า Pet Rock หรือแปลว่า “หินที่เอามาเลี้ยงได้” แต่จะเลี้ยงยังไงนั้น ไม่มีคู่มือติดมาให้ศึกษาได้ด้วย

และเมื่อปี ค.ศ. 1983 ของเล่นยอดนิยมที่บิดามารดาจะต้องหามาวางไว้ใต้ต้นคริสต์มาสในบ้าน คือ Cabbage Patch Dolls ซึ่งก็คือตุ๊กตาผ้า ซึ่งบริษัท Coleco ผู้ผลิต ทำการตลาดแหวกแนว โดยกล่าวว่า การซื้อตุ๊กตาตัวนี้ ไม่ใช่การซื้อ แต่เป็นการ “รับอุปถัมภ์” มีใบสูติบัตรของตุ๊กตาตัวที่ได้ “รับอุปถัมภ์” ใส่มาให้ด้วยในกล่อง Coleco ขาย Cabbage Patch Dolls ได้มากกว่าห้าล้านตัวในปีแรกที่วางขาย

แต่ที่ไม่มีของเล่นชิ้นใดทำลายสถิติได้ คือ ตุ๊กตา “Barbie” ซึ่งเริ่มวางตลาดขายมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1959 และสถิติที่ตามเก็บกัน ระบุว่า ทุกๆ 2 วินาที มีคนซื้อ Barbie 2 ตัว กล่าวได้ว่า Barbie เป็นอุตสาหกรรมที่ประมาณมูลค่าได้มากถึงปีละ 1.5 พันล้านดอลล่าร์

XS
SM
MD
LG