รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ Rex Tillerson เพิ่งสิ้นสุดการเยือนเอเชีย 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน โดยได้เจรจาหารือกับผู้นำทั้งสามประเทศในประเด็นหลัก คือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ หลังจากเกาหลีเหนือทดสอบยิงจรวดหลายครั้งในช่วงไม่กี่สัปดาห์มานี้ รวมทั้งครั้งล่าสุดในวันอาทิตย์
ในวันอาทิตย์ เกาหลีเหนือได้ทดสอบเครื่องยนต์จรวดแรงดันสูงซึ่งทางรัฐบาลกรุงเปียงยางบอกว่าเปรียบเสมือน “การเกิดใหม่” ของอุตสาหกรรมผลิตจรวดของเกาหลีเหนือ
รายงานข่าวระบุว่า ผู้นำเกาหลีเหนือ คิม จอง อึน ยืนยันความสำเร็จของการทดสอบครั้งล่าสุดนี้ และว่า “อีกไม่นาน โลกจะได้ประจักษ์ถึงช่วงเวลาสำคัญในประวัติศาสตร์แห่งชัยชนะของเกาหลีเหนือ”
สื่อเกาหลีเหนือรายงานว่า การทดสอบมีขึ้นที่สถานียิงจรวด Tongchang-ri ติดกับชายแดนจีน
การทดสอบครั้งนี้เกิดขึ้นขณะที่รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน อยู่ระหว่างเยือนกรุงปักกิ่ง ซึ่งเป็นจุดหมายสุดท้ายของการเยือนเอเชีย 3 ประเทศ คือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และจีน
ข่าวการทดสอบของเกาหลีเหนือถูกเปิดเผยออกมา ก่อนหน้ารัฐมนตรีทิลเลอร์สันเข้าพบประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ไม่นาน ต่อมารัฐมนตรีทิลเลอร์สันและรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง ยี่ แถลงต่อผู้สื่อข่าวร่วมกันว่า สหรัฐฯ และจีน ต่างรู้สึกว่าต้องมีการตอบสนองอย่างฉุกเฉินต่อภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือ
รมต.เร็กซ์ ทิลเลอร์สัน กล่าวว่า สหรัฐฯ และจีนตกลงกันว่าจะทำทุกวิถีทางเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งในภูมิภาคนี้ และเห็นตรงกันว่ามีมาตรการบางอย่างที่สามารถนำมาใช้ได้
อย่างไรก็ตาม รมต.ต่างประเทศสหรัฐฯ มิได้ระบุว่ามาตรการที่ว่านั้นคืออะไร และยังไม่ชัดเจนว่าทั้งสองประเทศ คือจีนและสหรัฐฯ เห็นพ้องกันในประเด็นนี้หรือไม่
ไม่นานก่อนที่ รมต.ทิลเลอร์สัน จะเดินทางถึงกรุงปักกิ่ง ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ทวีตข้อความว่า “เกาหลีเหนือมีท่าทีก้าวร้าวและปั่นหัวสหรัฐฯ มานานหลายปี โดยที่จีนยังไม่ได้ช่วยทำอะไรมากนัก”
ทางรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวัง ยี่ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทุกฝ่ายที่จะใช้มาตรการลงโทษเกาหลีเหนือ และเริ่มการเจรจารอบใหม่
ก่อนหน้านี้ระหว่างที่ รมต.ทิลเลอร์สัน เดินทางเยือนญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ ได้มีการหารือกับบรรดาผู้นำทั้งสองประเทศนี้ในเรื่องเกาหลีเหนือเช่นกัน โดยได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงโซลว่า “มาตรการทางการทูตที่กรุงวอชิงตันใช้กับเกาหลีเหนือตลอด 20 ปีที่ผ่านมานั้นใช้ไม่ได้ผล และขณะนี้สหรัฐฯ กำลังพิจารณาทางเลือกทุกอย่างที่เป็นไปได้ รวมทั้งมาตรการทางทหารหากจำเป็น”
แต่นักวิเคราะห์ด้านนโยบายบางคน รวมทั้งคุณ เจมส์ แมคคีออน แห่งศูนย์ควบคุมและยับยั้งการแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ ชี้ว่าการใช้มาตรการทางทหารนั้นอาจไม่จำเป็น แต่หนทางที่ดีกว่าคือการเจรจาโดยตรงโดยไม่มีการกำหนดเงื่อนไขล่วงหน้า
นักวิเคราะห์ เจมส์ แมคคีออน เชื่อว่าการเจรจาโดยตรงคือทางเลือกที่ดีที่สุด แม้ไม่สามารถรับรองได้ว่าจะประสบผลสำเร็จ และดูเหมือนเกาหลีเหนือกำลังได้เปรียบในด้านเวลา เพราะเชื่อว่าขณะนี้กรุงเปียงยางได้พัฒนาศักยภาพของจรวดขีปนาวุธไปได้ถึงระดับหนึ่ง โดยที่แทบไม่จำเป็นต้องมีการทดสอบอีกแล้ว
นอกจากประเด็นเรื่องภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือแล้ว รมต.ทิลเลอร์สัน ยังได้หารือกับประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เกี่ยวกับกำหนดการเยือนสหรัฐฯ ของผู้นำจีน ในเดือนเมษายน ซึ่งรวมถึงการพบกันครั้งแรกระหว่างประธานาธิบดีสี กับประธานาธิบดีทรัมป์ ที่รัฐฟลอริด้าด้วย
(ผู้สื่อข่าว Bill Ide และ Nike Ching รายงานจากกรุงปักกิ่ง / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)